นายราเมศ พรหมเย็น ผู้อำนวยการสถาบันพิพิธภัณฑ์การเรียนรู้แห่งชาติ (สพร.) หรือ มิวเซียมสยาม กล่าวว่า ปัจจุบันนี้สื่อดิจิทัลได้กลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของคนทั่วไป โดยทำหน้าที่เป็นตัวกลางในการถ่ายทอดข้อมูลข่าวสารสู่สาธารณชนในวงกว้างอย่างทันเหตุการณ์ รวมทั้งมีอิทธิพลต่อการรับรู้ เรียนรู้ และเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมของคนในสังคมได้มิวเซียมสยาม ในฐานะองค์การจัดการความรู้ขนาดใหญ่ที่มุ่งสร้างสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้อย่างยั่งยืน จึงได้จัดทำ "โครงการปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยามครั้งที่ 6 (Young Muse Project #6)" ขึ้น เพื่อส่งเสริมให้เยาวชนไทยรู้จักใช้สื่อดิจิทัลอย่างสร้างสรรค์ ผ่านการพัฒนาไวรัลแคมเปญ ภายใต้แนวคิด "ไทยเท่... เท่อย่างไทย" โดยมุ่งหวังให้เป็นเวทีจุดประกายไอเดียของคนรุ่นใหม่ในการใช้เทคโนโลยีใกล้ตัวเพื่อส่งเสริมวัฒนธรรมความเป็นไทย ตลอดจนสร้างประโยชน์แก่สังคมต่อไปในอนาคต
สำหรับโครงการปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยามครั้งที่ 6 นั้น เปิดโอกาสให้นักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย จนถึงระดับมหาวิทยาลัยทั่วประเทศเข้าร่วมโครงการ ซึ่งผู้เข้าร่วมจะต้องทำการสร้างสรรค์โปสเตอร์ ไวรัลคลิป และแผนการโปรโมทบนสื่อสังคมออนไลน์ โดยมีเกณฑ์การตัดสินในรอบคัดเลือกจากประเด็นการนำเสนอที่สอดคล้องกับแนวคิด "ไทยเท่... เท่อย่างไทย" ความคิดสร้างสรรค์ กลยุทธ์การโปรโมท และความน่าสนใจของชิ้นงาน ส่วนการตัดสินในรอบชิงชนะเลิศจะเพิ่มคะแนนจากแฟนเพจเฟซบุ๊ก (ยอด View Like และ Share) และคะแนนโหวตจากคนดูภายหลังการนำเสนอจบลง
โดยทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศในการประกวดครั้งนี้ได้แก่ ทีม Daddy Por จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ กับผลงาน "ฮาวทู เท่อย่างไทย" ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 40,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ ทีมน้องสมหญิงผู้ยิ่งใหญ่ จากมหาวิทยาลัยบูรพา กับผลงาน "เขาชื่อนอบน้อม" ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 30,000 บาท รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ ทีมดักดาน Production จากมหาวิทยาลัยรังสิต กับผลงาน "ลืม Young" ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 20,000 บาท และทีมที่ได้คะแนนจากแฟนเพจเฟซบุ๊กสูงสุดได้แก่ ทีมน้องสมหญิงผู้ยิ่งใหญ่ จากมหาวิทยาลัยบูรพา ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 10,000 บาท
นายวิชชา ณัฐญานธร หรือน้องพีท ตัวแทนทีม Daddy Por จากโรงเรียนเทพศิรินทร์ กล่าวว่า ผลงาน "ฮาวทู เท่อย่างไทย" เป็นคลิปวิดีโอความยาว 3 นาที ที่ฉายภาพชีวิตหนึ่งวันของ "เจี๊ยบ" เด็กรุ่นใหม่ที่เกิดในยุคเปิดรับวัฒนธรรมตะวันตกอย่างเต็มที่ โดยคลิปนี้จะสะท้อนให้เห็นถึงเสน่ห์ของความเป็นไทยที่คนไทยกำลังหลงลืม ผ่านพฤติกรรมที่ยืมมาจากชาวต่างชาติอาทิ การทักทายแบบเช็คแฮนด์ การกินแฮมเบอร์เกอร์ การสวมโอเวอร์โค้ทเพื่อความเท่ ในทางกลับกันก็ได้นำเสนอว่าความเท่อย่างไทยนั้นทำได้ง่าย ไม่ว่าจะเป็นการไหว้อย่างไทย การกินอาหารไทย การแต่งกายแบบไทย ซึ่งเป็นวัฒนธรรมอันยาวนานที่สร้างความภาคภูมิใจให้คนไทยรุ่นสู่รุ่น ทั้งนี้ คลิปดังกล่าวได้รับการโปรโมทผ่านทาง www.facebook.com/DaddyPor โดยมุ่งหวังให้คนไทยในวงกว้างได้ตระหนักถึงความเป็นไทย อย่างไรก็ดี ถึงแม้จะจบการประกวดแล้วแต่ทางทีมจะยังคงสร้างสรรค์ผลงานดีๆ ต่อไป ผ่านสื่อออนไลน์ที่ใช้เป็นส่วนหนึ่งในการประกวดครั้งนี้
ด้าน นายวงทนงศ์ ชัยณรงค์สิงห์ ผู้ก่อตั้งนิตยสารอะเดย์ หนึ่งในคณะกรรมการตัดสินผลการประกวดในครั้งนี้ กล่าวว่า โครงการปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยามครั้งที่ 6 นั้นได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี โดยมีกว่า 150 ผลงาน สมัครเข้ามาในรอบแรก จากนั้นผ่านคัดเลือกอย่างเข้มข้นจนเหลือ 26 ทีม และ 10 ทีมสุดท้ายในรอบชิงชนะเลิศ โดยทั้ง 10 ผลงานในรอบสุดท้ายมีความสร้างสรรค์และน่าสนใจแตกต่างกันไป สำหรับผลงาน "ฮาวทู เท่อย่างไทย" จากทีม Daddy Por ได้รับการพิจารณาแล้วว่าตีโจทย์ได้แตก มีKey message ที่แข็งแรงและต่อเนื่อง เล่าเรื่องได้อย่างน่าติดตาม ใส่สไตล์และความเป็นตัวเองของทีมลงไปได้อย่างเหมาะสม อย่างไรก็ตาม ต้องขอชื่นชมทุกทีมที่ทำผลงานออกมาอย่างตั้งใจ และโชว์ให้เห็นว่าไอเดียเด็กยุคใหม่นั้นไม่ธรรมดา
ทั้งนี้ มิวเซียมสยามได้จัดงานประกาศผล "โครงการปั้นนักพิพิธภัณฑ์สายพันธุ์สยามครั้งที่ 6 (Young Muse Project #6)" ไปเมื่อเร็วๆ นี้ ณ ลานสานฝัน สำนักงานอุทยานการเรียนรู้ (ทีเคปาร์ค) ชั้น 8 ศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ ปทุมวัน กรุงเทพฯ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่เบอร์โทรศัพท์ 02-225-2777 หรือเข้าไปที่ www.facebook.com/museumsiamfan