นายโชติก รัศมีทินกรกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) หรือ BTW เปิดเผยว่า "BTWประกอบธุรกิจรับงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก (Parts Fabrication) และงานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ (โมดูล) ทำให้บริษัทฯ มีข้อได้เปรียบกว่าบริษัทอื่นในอุตสาหกรรมเดียวกัน เนื่องจากความสามารถในการผลิตชิ้นงานที่หลากหลายให้กับลูกค้าในอุตสาหกรรมต่างๆ เช่น โรงไฟฟ้า ปิโตรเคมี ท่าเรือ โรงถลุงเหล็ก เหมืองแร่ ก๊าซและปิโตรเคมี เป็นต้น ทำให้กลุ่มบริษัทฯสามารถปรับเปลี่ยนการรับงานตามสภาพเศรษฐกิจและการเติบโตของแต่ละอุตสาหกรรมที่หลากหลาย ขณะนี้กลุ่มบริษัทฯ มุ่งเน้นการรับงานแปรรูปชิ้นงานเหล็กให้กับโรงไฟฟ้าทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะงานระบบท่อ งานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุ ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ รับรู้รายได้อย่างต่อเนื่อง"
นายโชติก กล่าวต่อว่า "สำหรับไตรมาส 1 ซึ่งสิ้นสุดรอบบัญชี ณ วันที่ 31มีนาคม 2559 กลุ่มบริษัทฯ มีโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินงานมูลค่ารวมประมาณ 1,866.1 ล้านบาท คิดเป็นมูลค่างานที่ยังไม่รับรู้รายได้รวมประมาณ1,166.7 ล้านบาท ซึ่งมีทั้งโครงการที่ดำเนินงานต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2558 และที่เพิ่งเริ่มโครงการในไตรมาสแรกของปีนี้โดยแบ่งเป็นงานระบบท่อ อาทิเช่น โรงไฟฟ้าบ้านโป่ง มูลค่างานตลอดโครงการ 70 ล้านบาท และโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มูลค่างานตลอดโครงการ 202 ล้านบาท
ส่วนงานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุ อาทิเช่น โครงการโรงไฟฟ้าแม่เมาะ มูลค่างานตลอดโครงการ 146.1 ล้านบาท และโครงการ 12 SPP Project มูลค่างานตลอดโครงการ 85.8 ล้านบาท ด้านงานโครงสร้างเหล็ก (Structural Steel Fabrication) กลุ่มบริษัทฯ มีจำนวนงานที่อยู่ระหว่างดำเนินงาน 4 โครงการ อาทิเช่น โรงไฟฟ้ากัลฟ์ SPP 3 มูลค่างานตลอดโครงการ 433.2 ล้านบาท และโครงการ Haveli Project ซึ่งเป็นโครงการโรงไฟฟ้าในประเทศปากีสถาน มูลค่างานตลอดโครงการ 194.4 ล้านบาท โดยงานแปรรูปชิ้นงานเหล็กนั้นมีระยะเวลาการดำเนินงานที่สั้น ส่งผลให้กลุ่มบริษัทฯ รับรู้รายได้ทันทีเมื่อส่งมอบงานให้ลูกค้า"
นายโชติก กล่าวทิ้งท้ายว่า "กลุ่มบริษัทฯ ยังเข้าร่วมประมูลงานโครงการใหม่ๆ เสมอ และด้วยความสามารถของกลุ่มบริษัทฯ ที่รับผลิตงานได้หลากหลายรูปแบบไม่จำกัดแค่โครงการเหมืองแร่ หรือโครงการโรงไฟฟ้า ที่ผ่านมากลุ่มบริษัทฯ มีประสบการณ์รับจ้างผลิตโครงการในหลากหลายอุตสาหกรรม และมีกลุ่มลูกค้าจากหลากหลายประเทศ แสดงให้เห็นถึงศักยภาพของกลุ่มบริษัทฯ ในการขยายงานไปสู่กลุ่มลูกค้าและธุรกิจใหม่ๆ"
ทั้งนี้ บริษัท บีที เวลธ์ อินดัสตรีส์ จำกัด (มหาชน) ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น หรือ Holding Company ด้วยทุนจดทะเบียน 378 ล้านบาท โดยมีบริษัท เบสท์เทค แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด เป็นบริษัทแกน ก่อตั้งเมื่อปี2530 ประกอบธุรกิจให้บริการแปรรูปผลิตภัณฑ์และโครงสร้างเหล็ก หรือSteel Fabrication ที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติร่วม 30 ปี โดยกลุ่มของงานบริการหลักประกอบด้วย งานแปรรูปและประกอบกลุ่มชิ้นงานขนาดใหญ่ หรือ โมดูล (Modularization) ซึ่งเป็นการผลิตกลุ่มชิ้นงานเหล็กหรือระบบการผลิตแยกเป็นหลายโมดูลเพื่อนำไปประกอบในโครงการอุตสาหกรรมหนักขนาดใหญ่ และงานแปรรูปชิ้นงานเหล็ก หรือ Parts Fabrication ได้แก่ งานระบบท่อ งานแปรรูปและประกอบถังทนแรงดันและถังบรรจุ และงานโครงสร้างเหล็ก