นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) ผู้นำการผลิตและจำหน่ายเครื่องกรองน้ำดื่มภายในครัวเรือน ภายใต้แบรนด์ "SAFE" (เซฟ) กล่าวในงานเซ็นสัญญาร่วมทุนระหว่าง TSR กับ กลุ่มบริษัท JB ซึ่งเป็นพันธมิตรยักษ์ใหญ่ธุรกิจเทรดดิ้งและธุรกิจลีสซิ่งที่ดำเนินธุรกิจ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมาเป็นเวลายาวนานเกือบ 20 ปี ว่า TSR ร่วมกับกลุ่ม JB เตรียมจัดตั้งบริษัท ทีเอสอาร์ ลาว จำกัด โดยมีทุนจดทะเบียน 4 พันล้านกีบ (หรือประมาณ 17.4 ล้านบาท) TSR ถือหุ้นในสัดส่วน 49% (1.9 พันล้านกีบ หรือประมาณ 8.53 ล้านบาท) ขณะที่กลุ่ม JB ถือหุ้น ในสัดส่วน 51% คาดว่ากระบวนการจดทะเบียนจัดตั้งจะแล้วเสร็จภายในเดือนกันยายนนี้ และเตรียมส่งเครื่องกรองน้ำดื่ม "SAFE" เข้าทำตลาดได้ภายในเดือนตุลาคมได้ทันที ซึ่งในเบื้องต้นจะนำไปวางจำหน่ายประมาณ 7 รุ่น เพื่อทดลองตลาด ก่อนส่งสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าไปทำตลาดในช่วงต่อไป
"ผมมั่นใจว่าการร่วมลงทุนในครั้งนี้ จะช่วยเสริมศักยภาพในการดำเนินธุรกิจให้กับทั้งสองฝ่าย โดยในส่วนของเครื่องกรองน้ำ "SAFE" ถือเป็นสินค้าที่มีคุณภาพ มาตรฐานสากล ซึ่งเห็นได้จากยอดขาย ที่เติบโตอย่างแข็งแกร่ง เป็นผู้นำตลาดเครื่องกรองน้ำในระบบขายตรงเบอร์หนึ่งของเมืองไทย การบริการทั้งก่อนและหลังการขายเป็นเลิศ จนเป็นที่ครองใจผู้บริโภค ขณะที่กลุ่ม JB ถือเป็นผู้ประกอบการเทรดดิ้ง และลีสซิ่ง ที่ทำธุรกิจในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวมาเกือบ 20 ปี มีรายได้กว่า 800 ล้านบาท/ปี ทำให้มีความเข้าใจตลาดเป็นอย่างดี และที่สำคัญกลุ่ม JB ยังมีจุดแข็งที่สำคัญ คือ ฐานลูกค้า ลีสซิ่งที่มีกว่า 2 หมื่นคน ถือเป็นโอกาสที่สำคัญของ TSR ในการขยายฐานลูกค้าในประเทศ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และเป็นการเปิดฉากรับการเปิดเสรีเออีซีของ TSR ก่อนที่จะ บุกตลาดในเวียดนามต่อไป" นายวิรัชกล่าวในที่สุด
ขณะที่นายชาคริต นักสอน ประธานกลุ่มบริษัท JB กล่าวว่า "มั่นใจว่าสินค้าเครื่องกรองน้ำดื่ม ภายใต้แบรนด์ "SAFE" ของ TSR จะได้รับการตอบรับจากลูกค้าอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากคนลาวมีความห่วงใยสุขภาพมากขึ้น โดยเฉพาะการเป็นโรคนิ่วในไต ซึ่งเครื่องกรองน้ำ "SAFE" เป็นสินค้าที่จะมาตอบสนองความต้องการได้ โดยบริษัทฯ เตรียมวางจำหน่ายสินค้าภายในไตรมาส 4 นี้ ชูจุดขายในแง่ของคุณภาพสินค้าที่มีมาตรฐาน ราคาจับต้องได้ และเปิดโอกาสให้ลูกค้าสามารถผ่อนสินค้าได้เป็นเวลานานถึง 6-12 เดือน ซึ่งมั่นใจว่าจะเป็นจุดขายที่สำคัญที่ช่วยผลักดันยอดขายสินค้าในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวได้เป็นอย่างดี"
"ด้วยฐานข้อมูลลูกค้าลีสซิ่งของกลุ่มบริษัท ที่มีลูกค้าใช้บริการกว่า 2 หมื่นราย และช่องทางการรับชำระเงินของกลุ่มบริษัทฯ มั่นใจว่าจะช่วยผลักดันยอดขายสินค้าของทีเอสอาร์ ลาว ให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งในอนาคต เป็นประโยชน์กับทั้งสองฝ่าย โดยตั้งเป้าหมายยอดขายในปีแรก 30 ล้านบาท" นายชาคริตกล่าว ในที่สุด