พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวว่า ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง เดิมใช้ชื่อว่า "ศูนย์สงเคราะห์และฝึกอาชีพสตรีภาคเหนือ จังหวัดลำปาง" จัดตั้งขึ้นตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๒ มิถุนายน ๒๕๒๐ และเปิดดำเนินการอย่างเป็นทางการ เมื่อวันที่ ๒๙ สิงหาคม ๒๕๒๒ และเมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๕๘ ได้โอนไปสังกัดกรมกิจการสตรีและสถาบันครอบครัว (สค.) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์(พม.) ตามพระราชบัญญัติ ปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม (ฉบับที่ ๑๔) พ.ศ. ๒๕๕๘ พร้อมเปลี่ยนชื่อเป็น "ศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง" ซึ่งเป็นหน่วยงานที่ให้การฝึกอบรมอาชีพให้แก่เด็กและสตรีซึ่งเสี่ยงต่อการถูกแสวงหาผลประโยชน์ไปในทางที่ไม่เหมาะสม และเสี่ยงต่อการตกเป็นเหยื่อของการค้ามนุษย์อันเนื่องมาจากความยากจน การขาดโอกาส
ทางการศึกษา หรือประสบปัญหาสังคมต่างๆ ใน ๑๗ จังหวัดภาคเหนือ พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวต่อไปว่า ศูนย์เรียนรู้ฯ แห่งนี้ นับเป็นหน่วยงานที่ช่วยป้องกันปัญหาการค้าประเวณี การค้ามนุษย์ในพื้นที่ได้ โดยการฝึกอาชีพให้ผู้ใช้บริการมีอาชีพ สามารถพึ่งตนเองได้อย่างมีศักดิ์ศรี และสตรี
ที่ผ่านการยกระดับวิชาชีพ มีความรู้ มีช่องทางในการประกอบอาชีพที่เหมาะสมกับรายได้ ในการดำเนินชีวิตอย่างมั่นคง
มีโอกาสเข้ารับราชการ ได้พัฒนาเป็นหัวหน้างาน และได้รับการศึกษาต่อในระดับปริญญา ตลอดจนการส่งเสริมสถานภาพ คุณค่าบทบาทสตรีให้สูงขึ้น และระหว่างที่ผู้รับการฝึกอบรมอยู่ในศูนย์ฯ นี้ จะได้รับการคุ้มครอง พิทักษ์สิทธิ และป้องกันปัญหาความรุนแรงต่อเด็กและสตรี ความรุนแรงในครอบครัว และปัญหาการค้ามนุษย์ (กฎหมาย ๓ ฉบับ) คือ การป้องกันและแก้ไขปัญหาการค้ามนุษย์ ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ พ.ศ. ๒๕๕๑ วิธีป้องกันและแก้ไขปัญหาเด็ก ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ. ๒๕๔๖ สิทธิ บทบาทหญิงและชาย และสถานการณ์ความรุนแรงในครอบครัว ตาม พ.ร.บ.คุ้มครองผู้ถูกกระทำว่าด้วยความรุนแรงในครอบครัว พ.ศ. ๒๕๕๐ การป้องกันการตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์และสุขภาพ
ทางเพศผ่านโครงการต่าง ๆ ระหว่างการฝึกอบรมอาชีพ
พลตำรวจเอก อดุลย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการดำเนินงานของศูนย์เรียนรู้การพัฒนาสตรีและครอบครัวภาคเหนือ จังหวัดลำปาง มีผู้ใช้บริการ รวม ๒,๓๗๐ คน แยกเป็น โครงการที่ดำเนินการเสร็จสิ้นแล้ว ๓ โครงการ ได้แก่ โครงการสร้างชีวิตใหม่แก่สตรีและครอบครัว ๖๐๐ คน โครงการเสริมสร้างโอกาสในการดำเนินธุรกิจแก่สตรี ๕๐ คน และ โครงการสนับสนุนการรวมกลุ่มประกอบอาชีพ ๑๐๐ วัน ๑๗๐ คน และโครงการที่อยู่ระหว่างดำเนินการอีก ๓ โครงการ ได้แก่ โครงการสร้างอาชีพ สร้างงานได้ สร้างเครือข่ายเพื่อชุมชน ๗๕๐ คน โครงการเติมใจสู้ภัยแล้งห่างไกลการค้ามนุษย์ ๔๐๐ คน กิจกรรมสงเคราะห์แก่ผู้มีรายได้ร้อยและผู้ไร้ที่พึ่ง ๔๐๐ คน โดยแยกเป็นหลักสูตรระยะสั้น เกี่ยวกับ นวดแผนไทยเพื่อสุขภาพ ตัดเย็บเสื้อผ้า เสริมสวย และโภชนาการ หลักสูตร ปวช. เกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผ้าแฟชั่น การตลาด การบัญชี การท่องเที่ยว แฟชั่นดีไซน์ และคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และหลักสูตร ปวส. เกี่ยวกับการตัดเย็บเสื้อผ้าสตรีชั้นสูง การตลาด และการบัญชี ศูนย์ฯ นี้ มีแนวทางและทิศทางการดำเนินงาน ในการพัฒนาศักยภาพกลุ่มสตรีเป้าหมายให้สามารถพึ่งตนเองได้ โดยการฝึกอบรมวิชาชีพ พร้อมทั้งส่งเสริมการมีรายได้ระหว่างอบรมและภายหลังจบ ควบคู่ไปกับการสงเคราะห์คุ้มครองสวัสดิภาพ และพัฒนาคุณภาพชีวิต การพัฒนารูปแบบและวิธีการดำเนินงานให้ได้มาตรฐานตามมาตรฐาน การจัดบริการสวัสดิการสังคมแก่สตรีในศูนย์เรียนรู้ฯ และมาตรฐานการปฏิบัติงานด้านการจัดสวัสดิการสังคมขององค์การสวัสดิการสังคม การบูรณาการการทำงานกับเครือข่ายซึ่งประกอบด้วย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาชน เพื่อประโยชน์สูงสุดของกลุ่มเป้าหมายและการพัฒนาระบบบริหารการจัดการให้มีคุณภาพ โดยการพัฒนาบุคลากรให้มีความรู้และมีส่วนร่วมในการพัฒนาระบบสารสนเทศและพัฒนางาน ร่วมสร้างองค์กรแห่งการเรียนรู้และองค์กรแห่งความผาสุก