กรุงเทพฯ--26 ก.ค.--คอร์แอนด์พีค
ไวส์ โชว์แบบบ้านใหม่ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านเย็นประหยัดพลังงาน" ในงานแสดงสินค้ารับสร้างบ้าน 2005 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ระหว่างวันที่ 4 - 7 สิงหาคมนี้ พร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษแถมระบบหลังคาเย็น CPAC Monier COOL ROOF SYSTEM ทุกหลังที่จองเฉพาะในงาน
นายภพศักดิ์ ปานสีทอง กรรมการผู้จัดการ บริษัทไวส์ คอนซัลแทนท์ (ประเทศไทย) จำกัด บริษัทรับออกแบบและสร้างบ้านคุณภาพเปิดเผยว่าไวส์ได้เปิดตัวแบบบ้านใหม่ ภายใต้คอนเซ็ปต์ "บ้านเย็นแนวประหยัดพลังงาน" โดยใช้วัสดุก่อสร้างหลังคาซีแพคโมเนีย ร่วมกับระบบหลังคาเย็น CPAC Monier COOL ROOF SYSTEM เน้นการระบายความร้อนด้วยอากาศของลมธรรมชาติภายในงานแสดงสินค้ารับสร้างบ้าน 2005 ซึ่งจัดโดยสมาคมธุรกิจรับสร้างบ้าน ระหว่างวันที่ 4—7 สิงหาคม 2548 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ นี้ ไวส์จะเปิดตัวแบบบ้านใหม่ที่เน้นบ้านประหยัดพลังงานโดยลูกค้าที่จองบ้านกับไวส์ จะได้สิทธิ์รับโปรโมชั่นพิเศษด้วยการแถมระบบหลังคาเย็น CPAC Monier COOL ROOF SYSTEM ของซีแพคโมเนีย ทุกหลังที่จองเฉพาะในงานนี้เท่านั้น
"ที่ผ่านมาการสร้างบ้านประหยัดพลังงาน มักนิยมกันความร้อนที่ผนัง แต่ปัจจุบันมีอีกวิธีการหนึ่งที่จะทำให้สร้างความเย็นภายในบ้านและเป็นการประหยัดพลังงาน ซึ่งเป็นการแก้ปัญหาได้อย่างตรงจุดมากๆ เพราะเป็นการระบายความร้อนมาจากหลังคาโดยตรง ซึ่งปกติแล้วความร้อนจะมาจากส่วนบนสุดนั่นก็คือหลังคาบ้านมากที่สุด ซึ่งระบบหลังคาเย็น CPAC Monier COOL ROOF SYSTEM จะเป็นการสร้างความเย็นให้ตัวบ้านได้มาก และเทคโนโลยีนี้จะเหมาะสำหรับการประหยัดพลังงานในปีนี้มาก"
นายภพศักดิ์ยังได้กล่าวถึงการปรับแผนงานเพื่อลดต้นทุนทางด้านบัญชีหลังจากที่ในปีนี้สภาวะทางเศรษฐกิจทั่วโลกเริ่มชะลอตัวลงอันเนื่องมาจากปัญหาน้ำมันมีราคาแพงว่าเพื่อเป็นการลดต้นทุนและงบประมาณในการก่อสร้างลง ไวส์จะใช้วิธีการสร้างโรงเก็บสินค้า (โกดัง) เก็บสินค้าโดยเฉพาะเหล็กเส้น ซึ่งเป็นวัสดก่อสร้างที่สำคัญในการสร้างบ้าน โดยโรงเก็บสินค้าแห่งนี้จะใช้เวลาดำเนินการเสร็จไม่เกิน 2 เดือนข้างหน้า ซึ่งจะทำให้ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย ในการรับเหมาสร้างบ้านของบริษัทฯได้เป็นจำนวนมาก ซึ่งการปรับปรุงระบบบัญชีในครั้งนี้ จะไม่มีการส่งผลกระทบต่อผู้บริโภค ทั้งทางตรงและทางอ้อม
"หลังจากที่เราจัดรูปแบบการบริหารโอเปอร์เรชั่นใหม่ทั้งหมด ภายในโรงเก็บสินค้า นอกจากจะเป็นโรงเก็บเหล็กเส้นโดยเฉพาะแล้ว เราจะมีเครื่องตัดเหล็กเพื่อตัดแยกแปรสภาพการใช้งานให้มีความเหมาะสม อาทิ ตัดเหล็กในส่วนที่ใช้วางฐานราก หรือเหล็กประเภทโครงหลังคา ซึ่งเมื่อจำแนกแปรสภาพแล้วก็สามารถนำส่งไปยังไซต์งานจริงได้ทันที ซึ่งจะทำให้เราได้ราคาเหล็กที่มีราคาต่ำลงและลดปริมาณการใช้แรงงานหน้าไซต์งานจริงน้อยลง เนื่องจากตัดเหล็กเสร็จแล้ว เมื่อไปส่งหน้างานก็เหลือเพียงขั้นตอนการผูกเหล็กเพียงอย่างเดียว "
นายภพศักดิ์กล่าวต่อว่าสถานการณ์เศรษฐกิจในขณะนี้ ยังไม่ถึงขั้นวิกฤตเหมือนกับปี2539 ซึ่งในปีนั้นเกิดปัญหาจากการปล่อยเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์ไม่เป็นระบบแต่เศรษฐกิจในปี 2548 เกิดจากราคาน้ำมันมีราคาแพงส่งผลกระทบโดยรวมไปทั่วโลก ซึ่งการจะปรับสภาพคล่องในวงการอสังหาริมทรัพย์ซัพพลายเออร์จำเป็นที่จะต้องขยายระยะเวลาปล่อยเครดิตสินเชื่อให้มากขึ้น โดยเฉพาะในตลาดรับสร้างบ้านขนาดกลางที่มีกำลังซื้อตั้งแต่ 3-5 ล้านบาทขึ้นไป เนื่องจากตลาดรับสร้างบ้านขนาดกลาง ผู้บริโภคยังมีกำลังซื้อและความต้องการในการบริโภคอยู่อีกมาก
ในส่วนตลาดรับสร้างบ้านระดับล่างนั้น คงจะต้องใช้ระยะเวลาอีกสักระยะหนึ่ง ซึ่งภาครัฐจำเป็นที่จะต้องอัดฉีดเม็ดเงินเข้าสู่ระบบอย่างมีประสิทธิภาพ เนื่องจากตอนนี้ผู้บริโภคในระดับรากหญ้า ซึ่งเป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ แทบจะไม่มีกำลังซื้ออยู่แล้ว
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ
คุณ ธนศักย์ อุทิศชลานนท์ (โป้ง)
ที่ปรึกษาประชาสัมพันธ์ บริษัท คอร์แอนด์พีค จำกัด
โทร.02-439-4600 ต่อ 8202โทรสาร 02-861-0675
อีเมล์ Tanasaku@core&peak.com
สามารถคลิกดูภาพได้ที่ www.thaipr.net--จบ--