นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ ประธานกรรมการ บริษัท เอนนี่แวร์ ทู โก เปิดเผยว่า "บริการเคลมดิ (Claim Di) ซึ่งเป็นระบบประกันภัยแบบดิจิทัล ได้เปิดบริการใหม่ชื่อ "เคลมดิ ไบค์" (Claim Di Bike) โดยก่อนหน้านี้ได้เปิดตัวศูนย์เคลมดิไบค์ไปแล้วที่ภาคอีสานและภาคใต้ ได้แก่ จังหวัดขอนแก่น, ภูเก็ต, หาดใหญ่ และครั้งนี้ เคลมดิเปิดตัวศูนย์เคลมดิไบค์แรกของภาคเหนือ ที่จังหวัดเชียงใหม่ นอกจากจะครอบคลุมระบบประกันรถยนต์ยุคใหม่ภายในเชียงใหม่เองแล้ว ยังจะเป็นศูนย์การจัดตั้งระบบประกันภัยรถยนต์ดิจิทัล เพื่อให้ครอบคลุมทั้งภาคเหนืออีกด้วย"
บริการ "เคลมดิ ไบค์" คือพนักงานสำรวจภัยหรือเซอร์ไวเยอร์อิสระที่ทำงานกับบริษัทโดยตรง ซึ่ง "เคลมดิ ไบค์" จะเข้ารับงานเคลมประกันต่อจากบริษัทประกันภัยในแถบภาคเหนือทั้งหมด ทันทีที่ผู้ทำประกันภัยเกิดเหตุที่จะต้องมีการทำเคลม เซอร์ไวเยอร์ของบริษัทจะเป็นผู้เข้าทำการประเมินด้วยระบบดิจิทัล ซึ่งจะทำให้เกิดความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมาก เพราะทั้งหมดจะสามารถออนไลน์เข้าสู่ระบบส่วนกลางได้ทันที ทำให้ลดงานด้านเอกสารและประหยัดเวลาให้กับลูกค้าและบริษัทประกันอย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้นยังป้องกันการทุจริตได้เป็นอย่างดี
"วันนี้เชียงใหม่ เป็นหัวเมืองใหญ่ของภาคเหนือที่มีการพัฒนาเติบโตด้วยอัตราเร่งสูงสุด และขึ้นแท่นเป็นศูนย์กลาง (Hub) หลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว การศึกษา การช็อปปิ้ง เมดิคอลฮับ และฮับการบินของภูมิภาค โดยเฉพาะในช่วง 1-2 ปีนี้ เราจะเห็นว่ามีโครงการขนาดใหญ่เกิดขึ้นราวดอกเห็ด ทั้งจัดสรรแนวราบ คอนโดมิเนียม คอมมิวนิตี้มอลล์ และศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในระดับภูมิภาคอาเซียน ทำให้นักท่องเที่ยวต่างขับรถยนต์ส่วนตัวเข้ามาเที่ยวที่เมืองเชียงใหม่อย่างไม่ขาดสาย
ซึ่งปัญหาใหญ่ ที่กำลังส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตชาวเชียงใหม่ในเวลานี้ คือการจราจรติดขัดในเขตเมือง ที่ทวีความรุนแรงขึ้นทุกวัน รวมถึงสถิติการเกิดอุบัติเหตุสูงที่สุดในภูมิภาคแถบนี้ ขณะเดียวกันระบบการเคลมประกันโดยใช้ตัวกลางให้กับบริษัทประกัน ยังใช้ระบบแมนนวลทำให้ความสมดุลของการเคลมประกันกับอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นไม่สมดุลกัน จึงเกิดปัญหาว่าผู้ทำประกันจะต้องเสียเวลารอบนถนนเป็นเวลานาน ทำให้ความพึงพอใจในการใช้ประกันภัยลดน้อยลงอย่างมาก ซึ่งหากมีอุบัติเหตุบนท้องถนนและไม่มีการทำเคลมประกันที่รวดเร็ว การจราจรของเมืองเชียงใหม่อาจจะวิกฤตมากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน.." นายกิตตินันท์กล่าว
ระบบที่เคลมดิจะนำมาแก้ไขปัญหานี้ คือ การเปิดให้พนักงานสำรวจภัยอิสระสามารถลงทะเบียนเข้าใช้ระบบงาน Claim Di Bike ได้ฟรีไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น ด้วยการใช้สมาร์ทโฟนทั้งระบบแอนดรอยด์และไอโฟน ก็สามารถเข้ามาร่วมเป็น Claim Di Bike Partner ได้ทันทีเมื่อเข้ารับการอบรมการใช้งาน ซึ่งบริษัทฯ จะทำการส่งงานผ่านทางสมาร์ทโฟนที่ลงทะเบียนไว้ โดยจับจากสัญญาณจีพีเอส (GPS) ว่าใครอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุที่สุดคนนั้นก็จะสามารถเลือกรับงานที่ตัวเองต้องการได้ทันที
Claim Di Bike สามารถทำให้พนักงานสำรวจภัยอิสระ รับงาน เดินทางถึงที่เกิดเหตุ และปฏิบัติงานได้รวดเร็วกว่าเดิม 2-3 เท่า ทำให้ทุกคนสามารถทำงานได้มากขึ้นจากวันละ 2-3 งาน เป็น 5-6 งานต่อวันส่งผลให้มีรายได้มากขึ้น ขณะเดียวกันก็แก้ไขปัญหาการเคลมประกันล่าช้าไปได้กว่า 100%
Claim Di Bike รองรับการทำงานแบบ เคลมสด (มีคู่กรณี) เคลมแห้ง (ไม่มีคู่กรณี) และตรวจสภาพรถก่อนรับประกัน โดยบริษัทจะเป็นผู้รับงานจากบริษัทประกันภัย และจัดส่งงานให้กับ Claim Di Bike Partner ตามอัตราค่าแรงที่ไม่แตกต่างจากที่เคลมดิได้รับจากบริษัทประกันภัยโดยตรงมากนัก แต่เคลมดิจะเข้ามาช่วยเรื่องการบริหารเงินสดหรือ Cash Flow ให้ทุกคนสามารถมีเงินหมุนเวียนดีขึ้น บริษัทจะจ่ายเงินค่าแรงเร็วกว่าที่บริษัทประกันภัย และจ่ายทุก 2 สัปดาห์
Claim Di Bike ยังจัดการส่งเสริมการตลาดหรือ โปรโมชั่นเสริมสำหรับพนักงานที่ขยันรับงานจำนวนมากเช่น หากรับงานครบทุก 10 งานในรอบเดือนจะได้รับ Bonus 1,000 บาททันที ทั้งยังจัดสวัสดิการต่างๆเสริมเช่น ชุด Claim Di Bike Jacket, หมวกกันน็อค Claim di Bike, ประกันชีวิต, ทุนการศึกษาบุตร ฯลฯ
ปัจจุบันเคลมดิได้รับสมัครและอบรม Claim Di Bike ไปแล้วมากกว่า 200 คนทั่วประเทศ ทั้งยังเชิญชวนบริษัท Outsource Surveyor มาร่วมเป็น Claim Di Bike Partner ได้มากกว่า 600 คน โดยเคลมดิจะส่งงานประเภทเคลมสด (มีคู่กรณี) ให้กับ Claim Di Bike Partner เท่านั้น โดยรวมแล้ว เคลมดิมี Claim Di Bike มากกว่า 800 คนทั่วประเทศ และในเดือนเมษายนที่ผ่านมาสามารถรับงานและส่งงานให้กับ Claim Di Bike ได้มากกว่า 3,000 เคลมทั่วประเทศ
เคลมดิตั้งเป้าไว้ว่าจะเพิ่มปริมาณการรับงาน การส่งงานทำเคลมสด เคลมแห้ง และตรวจสภาพรถก่อนรับประกัน ขึ้นเป็นจำนวน 20,000 เคลมต่อเดือน ภายในสิ้นปีนี้ นับว่าเป็นระบบที่เอื้อต่อบริษัท Outsource Surveyor ทั้งระบบ ซึ่งระบบถูกออกแบบมาเพื่อให้เป็นพันธมิตรทางการค้า เพิ่มปริมาณงานและรายได้ โดยนำเทคโนโลยีใหม่ที่ชื่อว่า Claim Di มาให้ใช้ฟรี ไม่คิดค่าบริการใดๆ เชื่อว่าการปรับตัวให้เข้ากับโลกดิจิทัลให้เร็วและทันเวลา จะทำให้ทั้งเคลมดิและคู่ค้าทั้งหมด สามารถเติบโตไปด้วยกันแบบก้าวกระโดด
"12 ปีก่อนเราพลิกโฉมวงการประกันภัยรถยนต์ครั้งที่ 1 โดยการสร้างระบบงานเคลมประกันภัยรถยนต์ด้วยการพัฒนาระบบ Mobile Application ให้กับพนักงานสำรวจภัย โดยใช้ระบบรับแจ้งเคลมทาง Call Center ระบบการค้นหา การสั่งการพนักงานสำรวจภัย ด้วยโทรศัพท์มือถือและ GPS ปัจจุบันมีบริษัทประกันภัยจำนวนมาก ซึ่งให้บริการทำเคลมด้วยระบบดิจิทัลเป็นจำนวนมากกว่า 40% ของจำนวนกรมธรรม์ทั้งหมดในประเทศไทย และในปี 2014 เราเปลี่ยนชื่อ Mobile Application เป็น Claim Di เริ่มขยายการให้บริการไปยังพนักงานสำรวจภัยอิสระ โดยตั้งชื่อใหม่ว่า Claim Di Bike โดยเปิดให้ผู้ที่มีจักรยานยนต์ รถยนต์ ที่มีสมาร์ทโฟนสามารถสมัครเข้าเป็นยอดมนุษย์สำรวจภัยอิสระ สามารถรับงานตรวจสภาพรถยนต์ก่อนการรับประกัน และทำเคลมแห้ง แบบไม่มีคู่กรณีได้ โดยเราเริ่มรับงานในกรุงเทพมหานครเมื่อกลางปี 2015 ที่ผ่านมา และช่วงเดือนมกราคมปีนี้ เริ่มเปิดรับสมัครจากทั่วประเทศ พบว่ามีผู้สนใจสมัครเข้าเป็น Claim Di Bike จำนวนมาก มาจากทุกแห่งทั่วประเทศ เราจึงตัดสินใจเปิดสาขาที่จังหวัดขอนแก่นอันดับแรก ตามมาด้วยที่ภูเก็ต หาดใหญ่ และล่าสุดที่จังหวัดเชียงใหม่แห่งนี้ " นายกิตตินันท์ อนุพันธ์ กล่าวสรุป