นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ ผู้จัดการทั่วไป ศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ เปิดเผยว่า ภาพรวมของ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ตลอดระยะเวลา 1 ปีภายหลังจากการปรับโฉมจาก 'ดิจิตอล เกตเวย์' ถือว่าเป็นไปได้ดีเกินเป้าหมายที่ตั้งไว้ โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ 20% เนื่องจากความเชื่อมั่นของแบรนด์สินค้าและบริการระดับแนวหน้าทั้งภายในประเทศและต่างประเทศที่เล็งเห็นศักยภาพของ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ และทยอยเปิดตัว Flagship store อย่างต่อเนื่องทำให้เราสามารถสร้างความแข็งแกร่งให้แก่ Traffic กลุ่มเดิม ในขณะเดียวกันก็สามารถขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มใหม่ๆ ได้ด้วยเช่นกัน ส่งผลให้ในวันธรรมดามี Traffic ประมาณ 30,000 คน ในขณะที่ช่วงสุดสัปดาห์หรือวันหยุดนักขัตฤกษ์ต่างๆ จะพุ่งสูงขึ้นกว่าวันธรรมดาเฉลี่ยที่ 20-30%
"ณ ปัจจุบัน เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ถือเป็นศูนย์การค้าที่รวม Flagship store ของแบรนด์สินค้าและบริการที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมมากมาย ซึ่งสามารถดึงดูดได้ทั้งกลุ่มลูกค้าชาวไทยและชาวต่างชาติ โดยล่าสุดที่สร้างความคึกคักอย่างมากคือการเปิดสาขา 'อีทูดี้ (ETUDE)' ที่บริหารงานโดยบริษัทแม่จากประเทศเกาหลีเป็นแห่งแรกในเมืองไทยที่บริเวณชั้น 3 ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ได้มีการเปิดตัวของแบรนด์อื่นๆ อาทิ เครื่องสำอางเกาหลี Hannese, Glowfish (โกลว์ฟิช) Serviced Offices และ Kuppadeli (คับปาเดลี่), สถาบันสอนภาษา Primo the Education Loft, ร้าน ARCOVA Korean lifestyle store จำหน่ายสินค้า อาทิ กิ๊ฟช้อป เครื่องเขียน อุปกรณ์บิวตี้ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิค ด้วยราคาเริ่มต้นที่ 50 บาท, การขยายสาขาที่ 2 ภายในศูนย์การค้าเดียวกันของบุฟเฟ่ต์อาหารญี่ปุ่นยอดฮิต Fuku in Town เป็นต้น และที่กำลังจะเปิดตัวอย่างยิ่งใหญ่ในไตรมาส 3 ของปีนี้ ตามมาติดๆ กับ "ลาเนจ (LANEIGE) ช้อป STAND ALONE ที่แรกและที่เดียวในเมืองไทย เมคอัพแบรนด์ชื่อดังจากประเทศเกาหลีและอีก 3-4 แบรนด์ทั้งด้านธุรกิจอาหารและความงาม นอกจากนี้ ในส่วนของการเช่าพื้นที่เพื่อจัดอีเวนท์, ถ่ายทำภาพยนตร์, กิจกรรมส่งเสริมการขาย และบูธหมุนเวียนต่างๆ ก็เพิ่มขึ้นเกินคาดเช่นกัน ปัจจุบันทางศูนย์สามารถปล่อยเช่าพื้นที่ไปได้แล้วกว่า 95% จากพื้นที่ให้เช่ารวม 4,600 ตารางเมตร เฉลี่ยค่าเช่าอยู่ที่ 2,800 -3,200 บาทต่อตารางเมตร โดยสัดส่วนรายได้หลักยังอยู่ที่รายได้จากค่าเช่าพื้นที่อยู่ที่ 80% และการจัดกิจกรรมรวมทั้งพื้นที่สื่อโฆษณาภายในศูนย์อยู่ที่ 20% โดยประมาณ" นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ กล่าว "สำหรับพื้นที่ส่วนที่เหลือนั้นอยู่ระหว่างการปรับปรุงในบริเวณชั้น 4 เพื่อพัฒนาเป็น Food & Beverage โซน ปัจจุบันเรากำลังมองหาแบรนด์ด้าน Food & Beverage ที่เพิ่งมีเพียงสาขาเดียว และมีกลุ่มลูกค้าที่เหนียวแน่น และสนใจที่จะขยายสาขาเข้ามาในย่านใจกลางเมืองเพื่อเติมเต็มโซนดังกล่าว"
ต่อมุมมองเกี่ยวกับการวิเคราะห์ภาพรวมศูนย์การค้าในย่านกลางเมืองและแนวโน้มในอนาคตนั้น นางสาวเปรมินทร์ เลอนรเสฏฐ์ แสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าวว่า "ศูนย์การค้าย่านใจกลางเมืองนั้นยังเป็นที่นิยมอย่างมากของทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติในทุก segment แต่ก็ต้องมีการปรับเปลี่ยนและพัฒนาให้เกิดความแปลกใหม่ในความคิดของลูกค้าอยู่เสมอ ดังเช่นที่เราเห็นการปรับเปลี่ยนของแต่ละศูนย์การค้าในย่านดังกล่าว โดยส่วนตัวมองว่าภาพรวมศูนย์การค้าย่านใจกลางเมืองจะมีแนวโน้ทที่ดียิ่งขึ้นตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 59 เป็นต้นไป โดยในปีนี้ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ใช้งบการตลาดอยู่ที่ 15 ล้านบาท"
และเพื่อเป็นการฉลองครบรอบ 1 ปีอย่างยิ่งใหญ่ เซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ จึงได้จัดงาน '1st Anniversary to Beauty Continued' ขึ้นตั้งแต่วันที่ 30 มิ.ย. ถึง 10 ก.ค. 59 เพื่อเป็นการขอบคุณกลุ่มลูกค้าที่ให้การสนับสนุนด้วยดีมาโดยตลอด "การจัดงานเปิดตัวในครั้งนี้ เราได้ดึง idol ของกลุ่มเป้าหมายมาร่วม Meet & Greet และร่วมสนุกในกิจกรรมต่างๆ ที่จัดขึ้นพร้อมกับร้านค้าต่างๆ ภายในศูนย์การค้าฯ นำโดยกลุ่มนักแสดงจากแก๊งค์ไดอารี่ตุ๊ดซี่ส์ "เพชร เต๋อ ปิงปอง" และนักแสดงกับบล็อคเกอร์ชื่อดังอีกมากมาย อาทิ คู่จิ้น "พีค บูม", อชิ อชิตา, เนย-โชติกา, เจเจ, ฮั่น เดอะสตาร์, ออกัส,ยิปโซ และอื่นๆ อีกมากมาย โดยกิจกรรมที่ถือเป็นไฮไลท์ของงานในครั้งนี้ได้แก่ การแข่งขัน Beauty Race เรซซิ่งเพื่อความสวยภายในศูนย์การค้าเซ็นเตอร์พอยท์ ออฟ สยามสแควร์ ซึ่งถือเป็นครั้งแรกของไทย โดยผู้เข้าร่วมการแข่งขันคู่ใดทำเวลาได้ดีที่สุด รับฟรี! สินค้าที่หยิบมาทั้งตระกร้ากลับบ้านทันที เพียงช้อปสินค้าภายในศูนย์ครบ 500 บาท รับสิทธิ์ลุ้นเป็น 5 คู่ต่อวันที่จะเข้าร่วมกิจกรรมในครั้งนี้ ซึ่งจะจัดขึ้นในทุกวันศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ ช่วง 1-3 ก.ค. 59 และ 8-10 ก.ค. 59 เวลา 15.-17.00 น. โดยผู้สนใจสามารถเข้าชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.facebook.com/centerpointofsiamsquare