กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แนะเกษตรกรในพื้นที่ที่มีความลาดชัน ให้จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาดินถล่ม ลดความสูญเสียหรือผลกระทบ

จันทร์ ๑๑ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๕๙
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ แนะเกษตรกรในพื้นที่ที่มีความลาดชัน ให้จัดทำระบบอนุรักษ์ดินและน้ำอย่างถูกวิธี เพื่อช่วยลดความเสี่ยงจากปัญหาดินถล่ม ลดความสูญเสียหรือผลกระทบ รวมทั้งป้องกันการชะล้างพังทลายของดินในพื้นที่เกษตรกรรม อันเป็นสาเหตุที่ทำให้สภาพดินขาดความอุดมสมบูรณ์

นายสุรพล จารุพงศ์ โฆษกกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า ในช่วงฤดูฝนที่มีปริมาณน้ำฝนตกลงมาก ปัญหาหนึ่งที่มักเกิดขึ้นโดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีความลาดชันสูง มักเกิดการสูญเสียมวลดินจากการชะล้างพังทลาย ทำให้สูญเสียหน้าดินที่มีธาตุอาหารพืชและอินทรียวัตถุในดิน ทำลายโครงสร้างของดิน จนส่งผลให้ความอุดมสมบูรณ์และความสามารถในการให้ผลผลิตของดินลดลง และอาจจะเป็นปัญหาดินถล่มได้เนื่องจากมีปริมาณน้ำฝนจำนวนมากเป็นปัจจัยหลักมากระตุ้น ปัจจุบันการเกิดดินถล่มในประเทศไทยมีแนวโน้มเกิดขึ้นบ่อยครั้งและมีความถี่มากขึ้น เนื่องมาจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ โดยเฉพาะรูปแบบของฝนเปลี่ยนแปลงไป เช่น ในช่วงฤดูแล้งมีปริมาณฝนตกน้อยลงส่วนในฤดูฝนจะมีฝนตกเพิ่มมากขึ้น และมีการตกอยู่บริเวณเดิมเป็นระยะเวลานาน และอีกสาเหตุหนึ่ง คือ การเปลี่ยนแปลงการใช้ประโยชน์ที่ดินอันเนื่องมาจากการพัฒนาพื้นที่เชิงพาณิชย์โดยขาดการจัดการพื้นที่ที่ดี การเปลี่ยนแปลงพืชปกคลุมดินไปเป็นพืชเศรษฐกิจ พืชเชิงเดี่ยว เช่น การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์และการปลูกยางพารา โดยเฉพาะในบริเวณพื้นที่เทือกเขาสูงหรือพื้นที่ลาดชันเชิงเขา

นายสุรเดช เตียวตระกูล อธิบดีกรมพัฒนาที่ดิน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดิน เป็นหน่วยงานหนึ่งที่ได้ดำเนินงานในการป้องกัน และบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากปัญหาดินถล่ม ด้วยการจัดทำแผนที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม และหมู่บ้านที่ได้รับผลกระทบจากดินถล่ม เพื่อช่วยลดความเสี่ยงความสูญเสียหรือผลกระทบที่เกิดขึ้นกับพื้นที่การเกษตร การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบภัย เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการระบุพื้นที่ที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มและใช้ในการกำหนดเขตอนุรักษ์ดินและน้ำ ตาม พ.ร.บ. พัฒนาที่ดิน 2551 จัดทำโครงการอนุรักษ์ดินและน้ำในพื้นที่เสี่ยงดินถล่มโดยผ่านกระบวนการมีส่วนร่วมของเกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งเป็นมาตรการระยะยาวในการป้องกันพื้นที่เกษตรที่มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม เพื่อป้องกันและฟื้นฟูสภาพพื้นที่ต้นน้ำให้คงสภาพนิเวศน์ที่สมบูรณ์ จัดทำระบบการปลูกพืชที่เหมาะสมในพื้นที่เกษตรร่วมด้วยการปลูกหญ้าแฝก จัดทำคันคูรับน้ำรอบขอบเขา ทำทางลำเลียงร่วมกับการปลูกหญ้าแฝก เพื่อชะลอความเร็วของน้ำที่ไหลลงมาจากด้านบน สนับสนุนให้มีการปลูกต้นไม้เศรษฐกิจโตเร็วและโตช้า ที่มีระบบรากแก้วเพื่อช่วยยึดดิน

ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ โดยกรมพัฒนาที่ดินได้ให้สถานีพัฒนาที่ดินทุกแห่ง ทำการถ่ายทอดองค์ความรู้ให้แก่เกษตรกรในพื้นที่เสี่ยงต่อการเกิดดินถล่ม ได้ทราบถึงสาเหตุและปัจจัยของการเกิดดินถล่ม เรียนรู้การดูแผนที่หมู่บ้านเสี่ยงภัยให้ทราบว่าหมู่บ้านหรือพื้นที่ของตนเอง มีความเสี่ยงต่อการเกิดดินถล่มหรือไม่ หากเกิดมีความเสี่ยงแล้วเกษตรกรจะสามารถป้องกัน และบรรเทาความเสียหายที่จะเกิดขึ้นได้

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ