นายพิชาญ พรหมเมฆประธาน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท เคซี วีล แอนด์ ไทร์ จำกัด เปิดเผยว่า "สำหรับ เคซี วีล แอนด์ ไทร์ ถือว่าใหม่สำหรับวงการฟุตบอลเช่นเดียวกับทีม บ้านบึง ยูไนเต็ด ที่เหมือนกับเราคือ ส่งทีมเข้าแข่งขันในลีก ภูมิภาคดิวิชั่น 2 เป็นปีแรก ทางบริษัทมีเป้าหมายคืออยากเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาวงการฟุตบอลในระดับรากหญ้าให้ก้าวไปสู่มาตรฐานระดับอาชีพ"
"ตนรู้จักทีมบ้านบึง ยูไนเต็ดจากเพื่อนที่เป็นนักฟุตบอลเล่นให้กับทีมชลบุรี เอฟซีแนะนำมาให้รู้จักกับทีมบ้านบึง ยูไนเต็ด ซึ่งเราเห็นว่าทีมนี้เป็นทีมน้องใหม่ที่กำลังมาแรงอยู่ในขณะนี้อีกทั้งยังเป็นทีมที่มีอนาคตไกล แต่ยังขาดผู้สนับสนุนหลักอย่างเป็นทางการ ซึ่งตอนนี้ยังขึ้นอยู่กับทีมชลบุรี เอฟซี หรือ เป็นทีมลูกของทีมชลบุรี เอฟซี ดังนั้นเราจึงเล็งเห็นว่าเป็นโอกาสของทั้งสองฝ่าย จึงได้เข้ามาให้การสนับสนุนหลัก โดยให้ทุนสนับสนุนครึ่งปีหลัง 500,000 บาท ซึ่งสิ่งที่ได้รับคือป้ายต่างๆ ในสนาม และโลโก้บนตัวเสื้อผู้แข่งขัน ทั้งนี้ สิ่งที่ได้รับเป็นเพียงองค์ประกอบย่อยแต่สิ่งที่เราอยากจะเห็นคือทีมบ้านบึง ยูไนเต็ด สามารถพัฒนาฝีเท้าจนเข้าไปในรอบลึกๆ หรือขึ้นไปแตะฟุตบอลดิวิชั่น 1 ได้"
การเข้ามาสนับสนุนทีมฟุตบอลบ้านบึง ยูไนเต็ด ถือว่าเป็นครั้งแรกที่บริษัทฯ เข้ามาสนับสนุนกีฬาฟุตบอล ซึ่งจัดว่าเป็นน้องใหม่จริงๆ ในกีฬาประเภทนี้ เราไม่ได้มองทีมฟุตบอลอื่นเลยเข้ามาสนับสนุนทีมนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเราจะคงสนับสุนอย่างเต็มที่ และอยากเห็นทีมฯ ประสบความสำเร็จ โดยเป้าหมายของบ้านบึง ยูไนเต็ด แม้จะเป็นปีแรกที่ส่งเข้าแข่งขันในระดับลีก ภูมิภาค ดิวิชั่น 2 แต่ด้วยผลงานในตอนนี้นำเป็นจ่าฝูงของตารางโซนภาคกลางและตะวันออก เราก็อยากสนับสนุนทีมให้รักษามาตรฐานตรงนี้เพื่อพาทีมเข้าสู่รอบสุดท้าย หรือรอบแชมเปี้ยนส์ลีกต่อไป ซึ่งหากผ่านเข้ารอบเราก็มีโบนัสให้กับทีมอีกด้วยก็อยากฝากแฟนๆ ให้ช่วยติดตามทีมน้องใหม่ทีมนี้ให้เดินทางไปถึงเป้าหมายให้ได้พร้อมๆ กันกับเราด้วย
นอกจากกีฬาฟุตบอลแล้วทางบริษัทยังให้การสนับสนุนหลักในการแข่งขันDrift Competition ที่จัดร่วมกับโอสถสภา รวมถึงมีทีมรถแข่งภายใต้ KC กับ ยางTri-Ace ในแข่งขันเซอร์กิตด้วย ทั้งนี้ เราจะเน้นสนับสนุนนักแข่งหน้าใหม่มากกว่าเพื่อให้โอกาสเขาในการแข่งขัน
นายพิชาญกล่าวถึงโครงการ CSR ที่ทางบริษัท เคซี วีล แอนด์ ไทร์ จำกัด กำลังจะจัดขึ้นว่า ทางบริษัท เคซี วีล แอนด์ ไทร์ จำกัด กำลังจะร่วมกับสถาบันการศึกษาชั้นนำในการทำโครงการเกี่ยวกับ Social Enterprise โดยจะจัดการแข่งขันประกวดแผนธุรกิจเพื่อสังคมในระดับอุดมศึกษาขึ้น สาเหตุที่เลือกทำโครงการนี้เพราะเราเห็นว่าธุรกิจเพื่อสังคมส่วนมากคนที่ทำจะไม่ค่อยมีเงินทุนมากจึงทำให้ไม่ประสบผลสำเร็จเท่าไรนัก ดังนั้นจึงอยากจะให้ทุนในการทำเพื่อต่อยอดจนประสบความสำเร็จได้
ซึ่งการประกวดการแข่งขันนั้นผู้ที่ชนะการประกวดจะได้รับเงินทุนสนับสนุนจำนวนหนึ่งในการตั้งบริษัทเพื่อดำเนินการธุรกิจเพื่อสังคมของเขา เสมือนเป็นการตั้งไข่ธุรกิจให้กับทีมที่ชนะเลิศ แล้วนอกจากนี้ยังมีอาจารย์คอยเป็นเทรนเนอร์ให้กับเขาในเรื่องการทำธุรกิจ รวมถึงเรื่องของInnovation ต่างๆ คล้ายเป็นโรงเรียนสอนเกี่ยวกับเรื่องธุรกิจให้กับเขา แต่เป็นธุรกิจที่ทำแล้วยั่งยืนเพื่อสังคม โดยเราได้ตั้งงบประมาณในการทำโครงการดังกล่าวไว้ประมาณ 5,000,000 บาท
นอกจากนี้นายพิชาญยังได้กล่าวถึงรางวัลที่ได้รับล่าสุดถึง 4 รางวัลว่า เราเพิ่งได้รับรางวัลมา 4 รางวัล ได้แก่ รางวัลที่ 1 รางวัลระฆังทอง(บุคคลแห่งปี2016 ) เป็นรางวัลที่มอบให้กับบุคคลที่ประกอบคุณงามความดีและมีผลงานดี ซึ่งอดีตมอบให้กับศิลปินกับดารา แต่ช่วงหลังได้ขยายวงกว้างมอบให้กับนักธุรกิจที่มีคุณงามความดีและผลงานดีเด่น ทำคุณประโยชน์ต่อสังคมและประเทศชาติด้วย, รางวัลที่ 2 รางวัล CEO AEC AWARDS 2016 เป็นรางวัลที่มอบรางวัลให้กับผู้บริหารจัดการที่โดดเด่น มีการรักษาคุณภาพมาตรฐานด้วยดีมาโดยตลอดและนำเอาระบบคุณภาพมาพัฒนาหรือควบคุมบริหารจัดการจนได้รับความไว้วางใจจากภาคส่วนองค์กรหน่วยงาน หรือภาคธุรกิจจากผู้บริโภคและการพัฒนาศักยภาพด้วยระบบงานผู้บริหารให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและรักษาความดีโดยคงคุณภาพมาตรฐานคุณธรรม, รางวัลที่ 3 รางวัล THAILAND PRODUCT AWARDS เป็นรางวัลที่มอบรางวัลให้กับบุคคลหรือภาคธุรกิจที่มีการพัฒนาทุกมิติโดยเฉพาะด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีและทรัพยากรของประเทศที่ประสบความสำเร็จ ก้าวหน้า และมีคุณภาพประสิทธิภาพได้เป็นอย่างดี และ รางวัลที่ 4 รางวัล AEC QUALITY AWARDS 2016เป็นรางวัลที่มอบรางวัลให้กับหน่วยงาน องค์กร ที่สามารถรักษาคุณภาพและมาตรฐานบูรณาการที่เป็นเลิศในการบริหารงานและการส่งเสริมพัฒนาสร้างสรรค์ตลอดจนการดำเนินการทำงานร่วมกันด้วยการสร้างเครือข่ายความร่วมมือบูรณาการทำงานระหว่างหน่วยงานหรือภาคส่วนต่างๆ อันไปสู่การพัฒนาคุณภาพให้บริการที่ดีขึ้นและสามารถรักษาคุณภาพและมาตรฐานการดำเนินงานการทำงานขององค์กรหรือหน่วยงานได้อย่างต่อเนื่อง
"จากรางวัลที่ได้รับทำให้ลูกค้าเชื่อใจได้ว่าสินค้าและบริการภายใต้แบรนด์ KC ของเรา มีคุณภาพได้มาตรฐานระดับสากล และขอยืนยันว่าเราจะไม่หยุดนิ่งที่จะพัฒนาสินค้าและบริการของเราอย่างต่อเนื่อง ซึ่งนอกจากยางรถยนต์และล้อแม็กซ์แล้วเราก็ยังจะมองผลิตภัณฑ์และบริการอื่นๆ ที่เกี่ยวกับรถยนต์เพื่อเข้ามาให้บริการกับลูกค้าเพิ่มเติมด้วย เช่น น้ำมันเครื่อง, โช๊คอัพ เป็นต้น"นายพิชาญกล่าวทิ้งท้าย