แพทย์แนะเลือกรองเท้าอย่างไรให้เหมาะกับรูปเท้า

ศุกร์ ๑๕ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๕:๓๗
เทรนด์สุขภาพปีนี้ คงหนีไม่พ้นการดูแลร่างกายตัวเองให้แข็งแรง ซึ่งการออกกำลังกายที่มาแรงในช่วงนี้เห็นทีจะเป็นการวิ่ง ซึ่งการวิ่งจะทำให้เท้าของเรารับแรงกระแทกเป็นจำนวนมาก เช่น วิ่ง 2 กิโลเมตร เท้ามีการก้าวกระแทกพื้น 5,000 ก้าว ทำให้เกิดการบาดเจ็บขึ้นมาได้ ฉะนั้นการเลือกใช้รองเท้าวิ่งที่ถูกสุขลักษณะตามรูปเท้าเราจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น

เท้าคนเรามีหลายรูปแบบ เช่น เท้าปกติ เท้าแบน หรืออุ้งเท้าโก่ง ถ้าจะมองให้เห็นภาพ ให้มองเท้าเราเหมือนยางรถยนต์ การมีเท้าที่ปกติก็เหมือนลมยางที่สูบพอดี สามารถรับการกระแทกและให้ความมั่นคงได้ แต่ถ้ายางนิ่มไปเหมือนเท้าที่แบนก็จะยวบยาบไร้ความมั่นคง เท้าจะพลิกได้บ่อย ส่วนเท้าที่โก่งเกินไปเป็นดังยางที่สูบลมจนต็มที่มั่นคงแต่ไม่สามารถรับแรงกระแทกได้ดี ทำให้วิ่งนานๆแล้วเกิดอาการเจ็บที่เท้าได้

การดูว่าอุ้งเท้าของเราเป็นอย่างไร ทำโดย เอาผ้าชุบน้ำมาถูเท้าให้เปียก หลังจากนั้นทำการเหยียบบนแผ่นกระดาษให้เป็นรอยเท้า หรือ ตรวจวัดลักษณะอุ้งเท้าด้วยเครื่อง i – Step ที่เชื่อมโยงกับระบบคอมพิวเตอร์ ใช้เวลาเพียง 20 วินาที ผลการตรวจจะแสดงให้เห็นการกระจายน้ำหนักของเท้าในแต่ละจุด การกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุลเป็นสาเหตุของปัญหาเท้าและการเดิน เราสามารถแก้ไขการกระจายน้ำหนักที่ไม่สมดุลนี้ ได้ด้วยการเลือกรองเท้า และแผ่นรองรองเท้าที่เหมาะสม

ทั้งนี้ การคำนวน (arch index) ให้แบ่งเท้าเป็นสามส่วน เอาส่วนกลางสุดของเท้า เป็นตัวตั้ง และหารด้วย ส่วนกว้างสุดของส้นเท้า (arch index = B/C) ถ้าได้ค่า น้อยกว่า 0.45 แสดงว่ามีเท้าโก่ง ได้ค่าระหว่าง 0.45-0.75 อุ้งเท้าปกติ และถ้ามากกว่า 0.76แสดงว่าเป็นคนมีรูปเท้าแบน ในการเลือกรองเท้ากีฬา ต้องให้เหมาะสมกับรูปอุ้งเท้าเรา ไม่งั้นจะเกิดการบาดเจ็บได้ง่าย ทำให้เวลาเราเดินเข้าไปในร้านเครื่องกีฬา จะมีแบบรองเท้าให้เราเลือกมากมาย วิธีการเลือกตามลักษณะเท้ามีดังนี้

ในคนที่มีอุ้งเท้าแบน ควรจะเลือกรองเท้าที่มีความมั่นคงที่ดี ดูจากชื่อจะมีคำว่า motion control , maximum support , stability หรือจะดูให้รองเท้า มีพื้นที่แข็งสักเล็กน้อย ไม่สามารถบิดไปมาได้ ขณะงอรองเท้าจะต้องไม่งอตามแรงเรา และแผ่นรองเท้าควรมีอุ้งเท้าด้านในนูนขึ้นมาเพื่อเพิ่มอุ้งเท้าของผู้ใส่ อาจต้องใส่เดินพื้นที่ไม่เสมอกันดูว่าไม่ทำให้เท้าเราเกิดการพลิก

สำหรับคนที่มีเท้าที่โก่งนูนขึ้นมา จะมีความแข็งของเท้าที่มาก สามารถส่งพลังงานลงสู่พื้นได้เต็มที่ แต่ก็มีข้อเสีย ว่าเท้าค่อนข้างไม่ยืดหยุ่น ทำให้จะเกิดการบาดเจ็บและเมื่อยที่หลังเท้า การเลือกรองเท้าควรเสริมเรื่องการรองรับการกระแทก เช่น well cushioned มีระบบดูซับแรง เช่น gel technology, air technology, boost foam การดูรองเท้าให้ กดที่แผ่นรองเท้าให้มีการยุบตัวและคืนตัวได้ดี แล้วใส่เดินรู้สึกนิ่มเท้า

คนที่มีเท้าที่ปกติ ดีทั้งการส่งแรงสู่พื้น และการรับแรงกระแทกที่ดี สามารถเลือกรองเท้าได้เกือบทุกชนิด แต่แนะนำให้ค่อนมาทางนิ่มเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ และแผ่นรองเท้าควรมีอุ้งเพื่อให้เท้าเราสัมผัสกับรองเท้าได้มากที่สุด

ในบางคนถึงแม้เปลี่ยนรองเท้าและยังมีอาการข้อเท้าพลิก หรือเจ็บบ่อย ๆ ไม่สามารถเล่นกีฬาได้นาน ๆ อาจมีปัญหาด้านอื่น หรือมีเอ็นรอบข้อเท้ามีปัญหา แนะนำให้มาพบแพทย์เพื่อตรวจเพิ่มเติมในการมาหาให้เอารองเท้ากีฬาที่ใส่ประจำมาดูด้วย เพราะรูปแบบอัตราการสึกของพื้นรองเท้า สามารถบอกลักษณะของทรงเท้า และวิธีการเดินได้ เพื่อจะได้มีการแนะนำที่ถูกต้องต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ