KTIS มั่นใจ 'บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากชานอ้อย 100%’ โตต่อเนื่อง ตั้งเป้า 3 ปีดันยอดขายเพิ่มเท่าตัว

พุธ ๒๐ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๑:๐๗
KTIS ตั้งเป้าสร้างรายได้จากบรรจุภัณฑ์ชานอ้อยเพิ่มอีกเท่าตัวภายใน 3 ปี โดยสัดส่วนรายได้จะเพิ่มจาก 4%เป็น 8%ของสายการผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษจากชานอ้อย เผยเป็นการดำเนินงานตามนโยบายสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ไม่ใช่เพียงแค่ลดของเสียเหลือศูนย์ที่ทำได้มานานแล้ว ย้ำกลุ่ม KTIS ไม่ได้คิดแค่เพิ่มรายได้หรือผลกำไร แต่ยังคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมด้วย

นายณัฎฐปัญญ์ ศิริวิริยะกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท เกษตรไทย อินเตอร์เนชั่นแนล ชูการ์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ KTIS ผู้นำในอุตสาหกรรมน้ำตาลทรายและอุตสาหกรรมต่อเนื่อง เปิดเผยว่า จากการที่กลุ่ม KTIS ได้เพิ่มสายการผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ทำจากเยื่อชานอ้อย 100% ขึ้นมา ในช่วงไตรมาสที่ 2ของปี 2559 ด้วยกำลังการผลิต 2.4 ตันต่อวัน ขณะนี้ได้ผลิตบรรจุภัณฑ์ประเภทแรก เป็นจานกลมขนาดเส้นผ่าศูนย์กลาง 6 นิ้ว 7 นิ้ว 9 นิ้ว และ 10 นิ้ว ออกจำหน่ายแล้ว และมีแผนงานที่จะผลิตชาม กล่องใส่อาหาร และถาดหลุมใส่อาหาร ออกมาในเร็วๆ นี้

ทั้งนี้ บริษัท เอ็นไวรอนเม็นท์พัลพ์ แอนด์ เปเปอร์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทย่อยที่ KTIS ถือหุ้น 100% เป็นผู้ผลิตบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อย 100% ได้ตั้งเป้าหมายไว้ว่าในช่วงปีแรกของการเริ่มผลิตสินค้าใหม่นี้สัดส่วนของรายได้บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อย 100% จะไม่สูงนัก โดยจะอยู่ที่ประมาณ 4% ของการผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษจากชานอ้อย และมีแผนว่าจะสร้างรายได้จากบรรจุภัณฑ์ชานอ้อยอีกเท่าตัวภายใน 3 ปีซึ่งสัดส่วนรายได้จะเพิ่มเป็น 8% ของสายการผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษจากชานอ้อย

"กลุ่ม KTIS มีนโยบายชัดเจนที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มจากผลิตภัณฑ์ต่างๆ ให้ได้มากยิ่งขึ้นในอนาคต หลังจากที่เราได้ดำเนินการด้วยแนวทาง Zero Waste หรือการลดของเหลือทิ้งให้เหลือศูนย์ และนำมาสร้างรายได้ได้ทั้งหมดแล้ว ซึ่งบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากเยื่อชานอ้อย 100% นี้ คือ การต่อยอดจากที่เราจำหน่ายเยื่อกระดาษชานอ้อยมาเป็นเวลา 10 กว่าปี นอกจากนี้ เรายังได้ศึกษาถึงการนำอ้อย น้ำตาลทราย และเอทานอล ไปต่อยอดทำผลิตภัณฑ์อื่นๆ ที่มีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกด้วย" นายณัฎฐปัญญ์ กล่าว

รองประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม KTIS กล่าวด้วยว่า ในกรณีของบรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากชานอ้อย100% นอกจากจะช่วยเพิ่มรายได้ เพิ่มกำไรให้กับกลุ่มบริษัทฯ แล้ว สิ่งที่กลุ่ม KTIS คำนึงถึงอยู่ตลอดเวลาก็คือ การสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของภาครัฐที่รณรงค์ให้ภาคเอกชนและประชาชนรักษาสิ่งแวดล้อม ลดการใช้บรรจุภัณฑ์พลาสติกที่ใช้แล้วทิ้ง หรือกล่องโฟมที่ย่อยสลายยาก ทำให้เกิดปัญหาด้านการจัดการขยะ ในขณะที่บรรจุภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมจากชานอ้อย 100% สามารถนำมาใช้ทดแทนโฟมได้ และมีผลดีอย่างมากกับสิ่งแวดล้อม เพราะสามารถย่อยสลายในเวลาอันรวดเร็ว

อนึ่ง โรงงานผลิตเยื่อกระดาษจากชานอ้อยของกลุ่ม KTIS นี้ เป็นโรงงานที่ผลิตเยื่อกระดาษจากชานอ้อยแห่งเดียวในประเทศไทยและใช้กระบวนการฟอกขาวแบบปราศจากคลอรีน อีกทั้งเป็นผลิตภัณฑ์เยื่อกระดาษรายแรกของประเทศไทยที่ได้รับมาตรฐานปลอดภัยต่อการบริโภค GMP & HACCP โดยได้ผลิตและจำหน่ายให้กับผู้ผลิตกระดาษทิชชู่ กระดาษรีมที่ใช้ในสำนักงานทั่วไป รวมถึงกระดาษในรูปแบบอื่นๆ ซึ่งสามารถทดแทนการตัดต้นไม้ได้ถึงปีละ32 ล้านต้น โดยในปี 2558 กลุ่ม KTIS มีรายได้จากสายการผลิตและจำหน่ายเยื่อกระดาษจากชานอ้อย 1,305 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ