นายอาทิตย์ นันทวิทยา กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวถึงผลประกอบการในไตรมาสนี้ว่า "ธนาคารยังคงรักษาผลประกอบการได้ดี ถึงแม้ในไตรมาสนี้สภาวะเศรษฐกิจโดยรวมยังไม่เอื้อต่อภาคธุรกิจและส่งผลกระทบต่อลูกค้า ธนาคารจึงได้ให้ความช่วยเหลือแก่ลูกค้าทุกกลุ่ม และได้เสนอบริการทางการเงินให้สอดคล้องกับสภาพธุรกิจ เพื่อให้ลูกค้าดำเนินธุรกิจต่อไปและพร้อมปรับตัวรับโอกาสเมื่อเศรษฐกิจกลับมาฟื้นตัวอีกครั้ง"
รายได้ดอกเบี้ยสุทธิตามงบการเงินรวมในไตรมาส 2/2559 มีจำนวน 21,761 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 4.5% จากไตรมาส 2/2558 ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการที่ธนาคารสามารถบริหารต้นทุนเงินฝากได้ดีขึ้น ด้วยการเพิ่มสัดส่วนเงินฝากประเภทออมทรัพย์และกระแสรายวัน ซึ่งส่งผลให้ต้นทุนเงินฝากเฉลี่ยลดต่ำลง รวมถึงการเติบโตของสินเชื่อ 2.5% จากปีก่อน
รายได้ที่มิใช่ดอกเบี้ยตามงบการเงินรวมเพิ่มขึ้น 22.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนใหญ่เป็นผลจากการกลับรายการสำรองประกันภัยของ SCB Life ทำให้รายได้สุทธิจากการรับประกันภัยเพิ่มขึ้น นอกจากนี้ กำไรจากเงินลงทุนเพิ่มขึ้นเช่นกัน
อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพต่อสินเชื่อรวมในไตรมาสนี้อยู่ที่ 2.77% ลดลงจาก 2.89% ณ สิ้นปี2558 แต่เพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนที่2.64% จากสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว ในไตรมาสนี้ ธนาคารตั้งค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญจำนวน 8,512 ล้านบาท หรือคิดเป็น 1.84% ของสินเชื่อรวม เพิ่มขึ้น 65.9% จากไตรมาส 2/2558 เพื่อทำให้อัตราส่วนค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญต่อสินเชื่อด้อยคุณภาพเพิ่มขึ้นเป็น 130.0% ณ สิ้นไตรมาส2/2559 จาก 109.8% ณ สิ้นปี 2558 และ 122.8% ณ สิ้นไตรมาส 1/2559