ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่ง"รพ.ราชธานี" คาดเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯ ภายในปีนี้

จันทร์ ๒๕ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๒๑
ก.ล.ต.นับหนึ่งไฟลิ่งหุ้นรพ.ราชธานี (RJH) ที่ปรึกษาทางการเงินมือทอง! บล.ธนชาต คาดนำหุ้นเข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ฯได้ภายในปีนี้ ด้านผู้บริหาร"นพ.วชิระ วุฒิกุลประพันธ์"เตรียมนำเงินไปขยายกิจการ ตั้งเป้าเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาและภาคกลาง

บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยถึงความคืบหน้าในการนำหุ้นบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้เริ่มนับหนึ่งแบบขออนุญาตการเสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ต่อประชาชน (ไฟลิ่ง) ตั้งแต่วันที่ 20กรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา เพื่อเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนต่อประชาชนทั่วไป (IPO) จำนวน 74.99 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1บาท หรือคิดเป็น 25% ของทุนจดทะเบียนชำระแล้วภายหลังการเสนอขายหุ้นเพิ่มทุนดังกล่าว ซึ่งหากเป็นไปตามแผนที่บริษัทฯวางไว้ คาดว่าหุ้น RJH จะสามารถเข้ามาซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ (SET) ภายในปี 2559

นายแพทย์วชิระ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) (RJH) กล่าวว่า วัตถุประสงค์ของการนำหุ้นเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯในครั้งนี้ เพื่อนำเงินไปใช้ในการขยายกิจการโรงพยาบาลราชธานี โรงพยาบาลราชธานี โรจนะ ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัทฯ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจและลงทุนสำหรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการแพทย์ โดยบริษัทฯตั้งเป้าหมายเป็นโรงพยาบาลชั้นนำในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา และในภาคกลาง ซึ่งในปัจจุบันโรงพยาบาลราชธานี ได้รับการรับรองคุณภาพ Hospital Accreditation (HA) ขั้นที่ 3 เรียบร้อยแล้ว

กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) (RJH) กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกลุ่มลูกค้าของโรงพยาบาล แบ่งออกเป็นกลุ่มลูกค้าทั่วไป 49.7% และกลุ่มลูกค้าตามโครงการสวัสดิการด้านสุขภาพภาครัฐประมาณ 50.3% ซึ่งโรงพยาบาลมีนโยบายเพิ่มสัดส่วนกลุ่มลูกค้าทั่วไปด้วยการพัฒนาศักยภาพในการรักษาพยาบาล โดยการเพิ่มจำนวนแพทย์ และพยาบาล รวมถึงขยายขอบเขตการรักษาโรคเฉพาะทางที่มีความซับซ้อนสูง ส่วนลูกค้ากลุ่มสวัสดิการภาครัฐ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นลูกค้าประกันสังคม บริษัทฯ มีนโยบายมุ่งเน้นการบริหารจัดการต้นทุนการให้บริการให้ได้อย่างเหมาะสม เพื่อให้สอดคล้องต่อรายได้เหมาจ่ายที่ได้รับจากโครงการประกันสังคม

สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2558 รายได้รวมอยู่ที่ 1,034.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 63.77 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2558 อยู่ที่ 1,075.70 ล้านบาท หนี้สินรวม 800.57 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 275.12 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 1/2559บริษัทฯมีรายได้รวม 298.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 39.01 ล้านบาท

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ