นายทรงพล ชีวะปัญญาโรจน์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ สายงานบริหารจัดการทางการเงินเพื่อธุรกิจธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ธนาคารได้ร่วมลงนามกับตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) จัดตั้ง กองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวไกลไปด้วยกัน ตามมติของคณะรัฐมนตรี วงเงินรวม 2,300 ล้านบาท ในรูปแบบกองทุนรวมลงทุนในกิจการ (SMEs Private Equity Trust Fund) โดยธนาคารกรุงไทยสนับสนุนในวงเงิน 2,000 ล้านบาท ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับเงินทุนสนับสนุน คำปรึกษาด้านการเงิน องค์ความรู้ในการลงทุน และการบริหารสำหรับกิจการที่มีแผนจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยมีเป้าหมายร่วมลงทุนกับ SMEs ใน 3 กลุ่ม ได้แก่ SMEs ระยะเริ่มต้น (Startup) ที่มีศักยภาพสูง SMEs ที่มีศักยภาพในการเติบโต และใช้เทคโนโลยีเป็นฐานการผลิตหรือบริการหรือด้านนวัตกรรม รวมทั้ง SMEs ที่มีประโยชน์ต่อการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ เป็น Supplier ธุรกิจภาครัฐและภาคเอกชนขนาดใหญ่ เป็นสมาชิกของสภาหอการค้าไทย หรือหน่วยงานภาครัฐ ทั้งนี้ ธนาคารได้แต่งตั้งให้ บมจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย บริหารจัดการจัดการลงทุนและ บลจ.วรรณ ดูแลผลประโยชน์ของกองทรัสต์
นางเกศรา มัญชุศรี กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า ด้วยตลาดหลักทรัพย์ฯ มีเป้าหมายที่จะเห็น "ตลาดหุ้นไทยเติบโตอย่างมีคุณภาพควบคู่กับการพัฒนาเศรษฐกิจไทย" ดังนั้น จึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพบริษัทจดทะเบียน ในขณะเดียวกันก็ต้องสร้างความเข้มแข็งให้บริษัทก่อนที่จะจดทะเบียนควบคู่กันไป ทั้งยังมองว่า SMEs เป็นกลุ่มธุรกิจที่มีศักยภาพที่จะเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ในอนาคต หรืออาจเป็นธุรกิจที่มีส่วนสนับสนุนหรือเป็น Supply Chain ให้กับบริษัทจดทะเบียน จึงกำหนดเรื่อง การสร้างความแข็งแกร่งให้ SMEs เป็นหนึ่งในภารกิจหลัก โดยงานส่วนหนึ่ง คือ การให้ความสนับสนุนด้านเงินทุนแก่ธุรกิจ SMEs ที่มีศักยภาพ ผ่านการร่วมลงทุนใน Private Equity Trust ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ จะร่วมลงทุนกับกองทรัสต์ที่ตั้งขึ้นนี้ จำนวน 200 ล้านบาท พร้อมทั้งสนับสนุนในด้านอื่นๆ เพื่อให้การดำเนินงานของกองทรัสต์สำเร็จตามวัตถุประสงค์
ดร.ณรงค์ ศิริเลิศวรกุล รองผู้อำนวยการ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) กล่าวว่า สวทช. กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เป็นหน่วยงานด้านการวิจัยและพัฒนาที่พร้อมจะนำนวัตกรรมจากการวิจัยและพัฒนามาใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ ซึ่งการร่วมจัดตั้งกองทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุนสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีก้าวไกลไปด้วยกันนี้ สวทช. มีนโยบายมุ่งเน้นที่จะใช้เทคโนโลยีฐานในการผลิตและบริการ นอกจากนี้ สวทช. ยังมีผู้เชี่ยวชาญด้านการลงทุนที่พร้อมจะให้คำปรึกษาในการดำเนินธุรกิจและนำเทคโนโลยีไปใช้อีกด้วย การใช้เทคโนโลยีสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอีนี้ สนับสนุนให้ผู้ประกอบการเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันและเติบโตอย่างรวดเร็วและก้าวกระโดด ทั้งนี้ สวทช. จะสนับสนุนวงเงินลงทุน 100 ล้านบาท นอกเหนือจากการร่วมลงทุน สวทช. ยังมีมาตรการอื่นๆ สนับสนุนผู้ประกอบการในด้านเทคโนโลยี เช่น การรับรองโครงการวิจัยและพัฒนา การรับรองธุรกิจเทคโนโลยี เพื่อยกเว้นภาษีเงินได้ เป็นต้น โดยผู้ประกอบการที่สนใจ สามารถติดต่อได้ที่ 02 564 7000 ฝ่ายบริการพัฒนาธุรกิจเทคโนโลยี
นางชวินดา หาญรัตนกูล กรรมการผู้จัดการ บมจ.หลักทรัพย์จัดการกองทุน กรุงไทย กล่าวว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้รับเลือกเป็นผู้จัดการกองทรัสต์ โดยบริษัทเล็งเห็นถึงความสำคัญในการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs และ Startup ที่มีศักยภาพให้เข้าถึงแหล่งเงินทุน และได้รับคำปรึกษาด้านการเงินอย่างมืออาชีพ โดยคุณสมบัติของผู้ประกอบการเป้าหมายในเบื้องต้นนั้น จะต้องเป็นกิจการที่มีศักยภาพสูง ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมเป็นฐานการผลิตหรือบริการ และมีผลประกอบการย้อนหลังอย่างน้อย 2-3 ปี นอกจากนี้ บริษัทจะพิจารณาถึงทีมบริหาร กลยุทธ์การตลาด การต่อยอดในเชิงพาณิชย์ ฯลฯ ซึ่งสนับสนุนวิสาหกิจเหล่านี้จะเป็นประโยชน์ในการเพิ่มศักยภาพการแข่งขันของผู้ประกอบการ และสร้างมูลเพิ่มทางเศรษฐกิจแก่ประเทศได้ในระยะยาว