“มิโด” เผยโฉมคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดจาก “บาเซิลเวิลด์ 2016” ในงาน “Mido 2016 Novelties Presentation”

อังคาร ๒๖ กรกฎาคม ๒๐๑๖ ๑๐:๓๔
"มิโด" (Mido) แบรนด์นาฬิกาคุณภาพจากสวิตเซอร์แลนด์ นำโดย มร.ฟรานซ์ ลินเดอร์ (Mr.Franz Linder) ประธานบริหาร และ บริษัท เดอะ สวอท์ช กรุ๊ป เทรดดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด นำโดย ทิพาณัท เลณบุรี กรรมการผู้จัดการ และภาณุวัฒน์ ทองพุ่ม ผู้จัดการผลิตภัณฑ์ จัดงาน "Mido 2016 Novelties Presentation" เพื่อเผยโฉมเรือนเวลาคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุดของ "มิโด" ที่ส่งตรงจากงาน "บาเซิลเวิลด์ 2016" (Basel World 2016) ณ เทเบิ้ลกริลล์ (Tables Grill) ชั้น M โรงแรม แกรนด์ ไฮแอท เอราวัณ กรุงเทพฯ

มร.ฟรานซ์ ลินเดอร์ ประธานบริหาร "มิโด" เผยว่า "เริ่มต้นก่อนอื่น ผมอยากจะบอกที่มาของชื่อแบรนด์ ซึ่ง "มิโด" มาจากคำภาษาสเปนว่า "Yo mido" มีความหมายว่า "ฉันวัด" or "I measure" โดยปรัชญาของเราคือการผสมผสานระหว่างความงาม ความเป็นต้นตำรับและความมีอรรถประโยชน์ การออกแบบที่อ่อนช้อย และไม่ฟุ้งเฟ้อของนาฬิกา "มิโด" ทำให้ผลิตภัณฑ์รุ่นต่างๆ อยู่เหนือกาลเวลา แฟชั่นหรือเทรนด์ที่มีวันเปลี่ยนแปลง นาฬิกา "มิโด" เป็นนาฬิกาที่ทนทานเฉกเช่นสิ่งก่อสร้างที่มีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมที่มีความโดดเด่นหรือมีความสำคัญในเชิงประวัติศาสตร์ต่างๆ นวัตกรรมล้ำสมัย เครื่องนาฬิกาแบบจักรกลชั้นเลิศและวัสดุที่เปี่ยมด้วยคุณภาพคือสามหัวใจสำคัญของแบรนด์ "มิโด" และเป็นรากฐานที่ทำให้ "มิโด" เป็นบรรทัดฐานของนาฬิกาจักรกลสัญชาติสวิสมานานเกือบหนึ่งศตวรรษแล้ว"

ไฮไลท์ของงานวันนี้ ประธานบริหาร "มิโด" ได้แนะนำเรือนเวลาทั้ง 5 คอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด ที่สะท้อนจุดบรรจบแห่งอดีตและปัจจุบัน ผ่านดีไซน์นาฬิกา "มิโด" ที่ส่งตรงจากงาน "บาเซิลเวิลด์ 2016" เริ่มต้นที่นาฬิกาเรือนบางพิเศษที่ดูดีเหนือกาลเวลาที่ "มิโด" ฉลองครบรอบ 40 ปีของคอลเลคชั่น "บารอนเชลลี่" ในปี ค.ศ.2016 นี้ ดังนั้น เพื่อสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นที่ทางแบรนด์มีต่อการประดิษฐ์นาฬิกาในรูปแบบดั้งเดิม "มิโด" จึงได้ออกแบบนาฬิการุ่น "บารอนเชลลี่ เฮอริเทจ" (Baroncelli Heritage) ให้เป็นเรือนเวลาที่บางที่สุดของแบรนด์ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลขัดเงาทรงกลมนี้วัดความหนาได้เพียง 6.95 มม. ทำให้คอลเลคชั่นนี้เป็นนาฬิกาที่บางที่สุดรุ่นหนึ่งในตลาดเวลานี้ ดูดีเหนือกาลเวลากับหน้าปัดสีดำลายเกรนที่เข้ากับเส้นสายอันแสนบริสุทธิ์โดยรอบได้อย่างลงตัว ทำงานด้วยเครื่องนาฬิกาแบบขึ้นลานอัตโนมัติที่มีการขัดแต่งอย่างสวยงาม ทั้งหมดประกอบกันเป็นเรือนเวลาอันแสนสง่างาม ซึ่งเป็นตัวแทนงานประดิษฐ์นาฬิกาสวิสสไตล์คลาสสิกได้เป็นอย่างดี

ต่อไปเป็นนาฬิกา "บารอนเชลลี่ คาลิเบอร์ 80 โครโนมิเตอร์ เอสไอ" (Baroncelli Caliber 80 Chronometer Si) คือ องค์รวมระหว่างขนบธรรมเนียมแห่งการประดิษฐ์นาฬิกาและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ทำงานด้วยเครื่องนาฬิการุ่นใหม่ที่ผ่านการรับรองความเที่ยงตรงระดับโครโนมิเตอร์โดย COSC นาฬิการุ่นนี้ฉลองโอกาสครบรอบ 40 ปีของคอลเลคชั่นด้วยความเที่ยงตรงในระดับสูงสุด มีการใช้ซิลิคอนบาลานซ์สปริงในตัวเครื่องรุ่นเรือธงเพื่อความเป็นเลิศ ซิลิคอนบาลานซ์สปริงเป็นนวัตกรรมสำคัญของวงการนาฬิกา สามารถทนทานต่อสนามแม่เหล็กและการสั่นสะเทือนได้ดีกว่า จึงทำให้ความเที่ยงตรงระยะยาวสูงกว่าบาลานซ์สปริงแบบปกติ ด้วยเครื่องรุ่นคาลิเบอร์ 80 นี้ นาฬิการุ่นนี้จึงมีกำลังลานสำรองนานถึง 80 ชั่วโมง นอกเหนือจากความเหนือชั้นทางด้านเทคนิคแล้ว นาฬิการุ่นนี้ยังมีเส้นสายที่กลมกลืนและบริสุทธิ์อันเป็นคุณสมบัติประจำตัวคอลเลคชั่น "บารอนเชลลี่" มานานถึง 40 ปี

ขณะที่ "มัลติฟอร์ท โครโนกราฟ แอดเวนเจอร์" (Multifort Chronograph Adventure) ก็เป็นอีกหนึ่งนาฬิกาที่ออกแบบมา เพื่อนักผจญภัยที่ชื่นชอบการเดินทางในเส้นทางแปลกใหม่ไม่เหมือนใคร ด้วยคาแรคเตอร์ที่เปี่ยมล้นจากการใช้ตัวเรือน สเตนเลสสตีลเคลือบพีวีดีสีแอนธราไซท์ สายหนังลูกวัวแท้สีน้ำตาลแบบเจาะรู เป็นคู่สีสุดสปอร์ตและชิคที่พบเห็นได้ไม่บ่อยนักในวงการนาฬิกา ทำงานด้วยเครื่องคาลิเบอร์ 60 ซึ่งเป็นเครื่องนาฬิกาโครโนกราฟแบบขึ้นลานอัตโนมัติยุคล่าสุดที่มีกำลังลานสำรองยาวนาน 60 ชั่วโมง

สำหรับเรือนเวลาสุดเอ็กซ์คลูซีฟเพื่อเป็นเกียรติแก่อนุสรณ์ชื่อดังแห่งกรุงลอนดอน ผลงานชิ้นล่าสุดของ "มิโด" เป็นการให้เกียรติแก่อนุสรณ์ที่โด่งดังที่สุดแห่งหนึ่งของโลก นาฬิกา "บิ๊กเบน ลิมิเต็ด เอดิชั่น" (Big Ben Limited Edition) รุ่นนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากรูปทรงสูงเพรียวของหอนาฬิกาสี่หน้าปัดของกรุงลอนดอน ตัวเรือน สายโลหะ หน้าปัดและเครื่องของนาฬิการุ่นนี้ล้วนแล้วแต่มีรายละเอียดที่สื่อถึงสถาปัตยกรรมสไตล์นีโอโกธิคของหอนาฬิกาแห่งนี้ สำหรับนาฬิกา "บิ๊กเบน ลิมิเต็ด เอดิชั่น" ผลิตเป็นจำนวนจำกัด 500 เรือน มีที่มาจากการแข่งขันออกแบบนาฬิกา Mido Watch Design Contest ซึ่งมี ดีไซเนอร์ มร.เซบาสเตียน แปเรต์ จากเนอชาแตลเป็นผู้ชนะ ผลงานการออกแบบของเขานำเอารูปทรงวงกลมไปไว้ข้างในรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสจนกลายเป็นดีไซน์แกร่งกล้าท้ากาลเวลา ซึ่งสอดคล้องกับจิตวิญญาณของแบรนด์ "มิโด" อย่างแท้จริง

ปิดท้ายที่ นาฬิกา "มิโด" คอลเลคชั่น "โอเชียล สตาร์ กัปตัน ไทเทเนียม" (Ocean Star Captain Titanium) ใหม่นี้ ได้รับการออกแบบมาเพื่อพิชิตทะเลลึกโดยเฉพาะ โดยมีขอบตัวเรือนหมุนได้ทิศทางเดียวและบานพับสายแบบยืดได้ เพื่อการดำน้ำเป็นคุณสมบัติสำคัญอย่างที่นักดำน้ำต้องการ มาพร้อมกับข้อดีมากมาย ทั้งเรื่องน้ำหนักที่เบาเพียง 123 กรัม ความทนทานของโครงสร้าง ตลอดจนความเที่ยงตรงและความน่าไว้วางใจของเครื่องนาฬิกา วัสดุที่ใช้ในการผลิตตัวเรือนและสายขัดซาตินและขัดเงาคือไทเทเนียม ซึ่งมีน้ำหนักเบากว่าแต่ทนทานกว่าสเตนเลสสตีลด้วย...เชิญสัมผัสเรือนเวลาที่ของคอลเลคชั่นใหม่ล่าสุด จากงาน "บาเซิลเวิลด์ 2016" ของ "มิโด" ได้แล้ววันนี้ ณ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำทั่วไป หรือตัวแทนจำหน่าย "มิโด" สอบถามเพิ่มเติม โทร.02-610-0200

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ