นางสาววิลาวัลย์ วิศปาแพ้ว รองประธานฝ่ายขายและการตลาด วอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย) เปิดเผยว่าหลังจากที่ วอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย) ได้ผู้ชนะในสองสนามคือสนาม On Road คือนายสำเริง งามมาก พนักงานขับรถจากบริษัท อินเทล โลจิสติกส์ จำกัด และสนาม Off Road คือนายอามิต จิตทะวง จากบริษัท ภูเบี้ย ไมน์นิ่ง จำกัด ซึ่งเป็นผู้รับสัมปทานเหมืองทองคำและเหมืองทองแดงในประเทศสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว จนถึงขณะนี้ ตัวแทนจาก Thailand Hub ทั้งสองรายอยู่ระหว่างการศึกษารายละเอียดของการแข่งขัน
"สิ่งที่เราเน้นให้นักแข่งทั้งสองรายศึกษาคือรายละเอียดตัวรถและเครื่องยนต์รุ่นที่จะใช้แข่งขันในสนามต่อไป รวมถึงเส้นทางที่จะใช้แข่งขัน อีกทั้งทำความเข้าใจถึงภาษาที่จะต้องใช้สื่อสารในขณะแข่งขัน" นางสาววิลาวัลย์ กล่าว
นางสาววิลาวัลย์ กล่าวว่ากำหนดการของการแข่งขันที่จะจัดในวันที่ 7 – 8 กันยายนนี้ ทางวอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย) จะนำนักแข่งทั้งสองรายเข้าหลักสูตรอบรมเพื่อการแข่งขันอย่างเข้มข้น เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ก่อนการแข่งขัน โดยจะทำการเก็บตัวที่กรุงเทพฯ เพื่อทบทวนเทคนิคการขับรถ รวมไปถึงการปรับทัศนคติเพื่อเตรียมพร้อมลงสู่สนามที่ใหญ่ขึ้น และหากตัวแทน Thailand Hubสามารถผ่านทะลุรอบ APAC Final ได้ ก็จะได้รับสิทธิ์เข้าร่วมแข่งขันชิงแชมป์โลกในรายการ FuelWatch Global Challenge ที่ประเทศสวีเดน
การแข่งขันขับขี่ปลอดภัยและประหยัดพลังงานหรือ FuelWatch Competition วอลโว่ ทรัคส์ ได้ดำเนินการจัดมาเป็นเวลา 7 ปีติดต่อกัน โดยปีนี้มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้น 260 คน เพิ่มขึ้น 73% จาก 150 คนเมื่อปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นอัตราเติบโตที่สูงมาก และสะท้อนถึงการยอมรับสนามแข่งขันจากนักขับรถวอลโว่ ทรัคส์ได้เป็นอย่างดี
"ความจริงแล้ว การแข่งขันรายการนี้ ในครอบครัววอลโว่ ทรัคส์ มีการจัดแข่งขันกันแบบเดียวกันทั่วโลก มีผู้เข้าร่วมแข่งขันทั้งสิ้นมากกว่า 15,000 คน โดยมีการแข่งขัน 2 ประเภทคือทางราบหรือ On Road และทางวิบากหรือ Off Road และปีนี้ถือเป็นปีพิเศษของประเทศไทยที่เราจัดแข่งขันครบทั้งสองประเภท โดยประเภท On Road เราจัด 7 ปีติดต่อกัน แต่ประเภท Off Road นั้น เราจัดขึ้นเป็นปีแรก" นางสาววิลาวัลย์ กล่าว
วอลโว่ ทรัคส์ (ประเทศไทย) ได้จัดกิจกรรมการแข่งขันขับขี่ปลอดภัยและประหยัดพลังงาน FuelWatch Competition อย่างต่อเนื่อง โดยปีนี้ถือเป็นการจัดเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยในปีแรก พ.ศ. 2553 มีผู้สมัครเพียง 56 คน และเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เป็น 65 คนในปี2554 ปี 2555 มีผู้สมัคร 73 คน ปี 2556 มีผู้สมัคร 81 คน ในปี 2557 มีผู้สมัคร 120 คน และ150 คนในปีที่แล้ว และล่าสุดปีนี้เพิ่มขึ้นเป็น 260 คนในปีนี้