ปัจจัยสนับสนุนอันดับเครดิต
อันดับเครดิตของ FNS สะท้อนถึงเครือข่ายการดำเนินงานภายในประเทศของบริษัทที่มีขนาดค่อนข้างจำกัดและเป็นกลุ่มลูกค้าเฉพาะ (niche) และยังสะท้อนถึงแหล่งที่มาของรายได้ที่มีความหลากหลายมากขึ้นหลังจากแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจของบริษัทแล้วเสร็จ การลงทุนในธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่าซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจส่งผลให้อัตราส่วนเงินทุนของบริษัทอ่อนแอลงเนื่องจากหนี้สินที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามรายได้และกำไรที่มีเสถียรภาพมากขึ้นจากธุรกิจดังกล่าวน่าจะมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงได้ในระดับหนึ่ง
ผลการดำเนินงานของ FNS น่าจะยังคงผันผวนตามสภาวะตลาดหลักทรัพย์ในระยะยาวเนื่องจากรายได้จากธุรกิจหลักของ FNS มาจากธุรกิจวาณิชธนกิจซึ่งเป็นธุรกิจที่มีรายได้แปรผันตามจำนวนงานที่ได้รับซึ่งไม่สม่ำเสมอ FNS มีแผนที่จะออกตราสารหนี้ระยะยาวแทนตราสารหนี้ระยะสั้นเพื่อยืดระยะเวลาชำระหนี้ (maturity profile) ซึ่งน่าจะช่วยให้สภาพคล่องของบริษัทปรับตัวดีขึ้น สำหรับในระยะปานกลาง ความเสี่ยงในด้านสภาพคล่องน่าจะถูกลดทอนไปได้บ้างโดยสินทรัพย์สภาพคล่องของ FNS ซึ่งที่ผ่านมาอยู่ในระดับที่สามารถรองรับหนี้สินระยะสั้นได้ นอกจากนี้บริษัทยังมีวงเงินกู้ที่เป็นวงเงินแบบผูกพัน (committed credit facility) อีก 150 ล้านบาทและ FNS อยู่ในระหว่างการดำเนินการขยายวงเงินกู้ยืมเพิ่มเติม
อันดับเครดิตของ FNS ยังได้สะท้อนถึงความคาดหวังของฟิทช์ว่าอัตราส่วนหนี้สินและฐานะเงินทุนของ FNS น่าจะปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องในระยะปานกลางตามแผนการชำระหนี้ใน 3 ปีข้างหน้าของบริษัทและแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทที่น่าจะมีเสถียรภาพมากขึ้น
ในระยะปานกลางอัตรากำไรจากธุรกิจหลักของ FNS น่าจะยังอ่อนแอเนื่องจากลักษณะของธุรกิจโรงงานและคลังสินค้าเพื่อเช่าที่มีอัตรากำไรที่ต่ำและเติบโตช้า ในขณะที่รายได้จากธุรกิจวาณิชธนกิจซึ่งมีอัตรากำไรที่สูงกว่ามีความผันผวน อย่างไรก็ตามกำไรสุทธิของ FNS น่าจะได้รับประโยชน์จากส่วนแบ่งกำไรจากบริษัทร่วมเนื่องจากบริษัทเหล่านี้มีแนวโน้มและประวัติผลการดำเนินงานที่ดี
ปัจจัยที่อาจมีผลต่ออันดับเครดิตสากลในอนาคต
ด้วยขนาด โครงสร้างของเครือข่ายทางธุรกิจ และความเสี่ยงในระยะปานกลางจากการที่บริษัทอาจไม่สามารถดำเนินงานตามแผนการปรับโครงสร้างธุรกิจ (execution risk) ดังนั้นโอกาสที่บริษัทจะได้รับการปรับเพิ่มอันดับนั้นมีค่อนข้างจำกัด การที่บริษัทไม่สามารถดำเนินการตามแผนการชำระหนี้อย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการที่อัตราส่วนฐานะหนี้สินและฐานะเงินทุนของบริษัทไม่สามารถปรับตัวดีขึ้นได้ตามที่คาดการณ์ไว้อาจส่งผลให้อันดับเครดิตถูกปรับลดอันดับ นอกจากนี้การที่บริษัทมีผลการดำเนินงานที่ขาดทุนอย่างมีนัยสำคัญจากธุรกิจหลัก และการปรับตัวลดลงของความเชื่อมั่นของเจ้าหนี้ต่อบริษัทอาจส่งผลให้อันดับเครดิตถูกปรับลดอันดับเช่นกัน