เพื่อยกระดับโครงสร้างพื้นฐานด้านการสื่อสารโทรคมนาคม ให้เกิดการพัฒนาด้านการเรียนรู้ให้แก่เยาวชนและชุมชนที่อยู่ในพื้นที่ห่างไกล ให้เข้าถึงอินเทอร์เน็ต ซึ่งเป็นศูนย์รวมข้อมูลข่าวสาร ตลอดจนความรู้จากแหล่งต่างๆ ทั่วโลก นำร่องที่ศูนย์การเรียนตำรวจตระเวณชายแดนบ้านคีรีล้อม อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นพื้นที่ห่างไกลอยู่ในถิ่นทุรกันดาร
โดยโครงการดังกล่าว เอไอเอสได้ทำหน้าที่นำระบบไอซีทีมาเชื่อมโยงการสื่อสารในยุคดิจิทัลด้วยการจัดทำห้องเรียนต้นแบบด้านการเรียนรู้สำหรับเยาวชน ติดตั้งระบบอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงแบบไร้สายและระบบโทรศัพท์เคลื่อนที่ 3G เพื่อเป็นการเปิดโลกแห่งการสื่อสาร ให้เยาวชนและชุมชนสามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลที่นับเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้ดียิ่งขึ้น
สำหรับขั้นตอนการดำเนินงานเริ่มตั้งแต่การผลิตพลังงานไฟฟ้า เพราะบริเวณชุมชนบ้านคีรีล้อมอยู่ในพื้นที่ห่างไกลยังไม่มีระบบไฟฟ้า และระบบการสื่อสารโทรคมนาคมยังเข้าไปไม่ถึง เอไอเอสจึงร่วมกับ เนคเทค ออกแบบ พัฒนา และติดตั้งระบบพลังงานทดแทนแบบบูรณาการ ที่ใช้ระบบการผลิตพลังงานไฟฟ้าแบบผสมผสานระหว่างพลังงานจากเซลล์แสงอาทิตย์ และพลังงานจากน้ำ สำหรับใช้งานภายในศูนย์การเรียนตำรวจตระเวนชายแดนแห่งนี้ พร้อมมีระบบตรวจวัดข้อมูลสังเกตการณ์ระยะไกล (Remote Monitoring) เพื่อให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ และเข้ามาแก้ไขได้อย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังร่วมกันจัดตั้งสถานีเก็บประจุไฟฟ้า (Charging Station) เพื่อให้ประชาชนนำตะเกียงมาชาร์จไฟไปใช้งานที่บ้านได้ พร้อมทั้งมีการจัดอบรมเพื่อให้ความรู้แก่ครูและนักเรียนเรื่องการใช้งาน และการบำรุงรักษาอุปกรณ์ต่างๆ ด้วย
"เอไอเอสมีความพร้อมที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัล และบุคลากรคุณภาพมาช่วยยกระดับ พัฒนาสังคมไทย ให้มีความพร้อมสู่การเป็นสังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ และผลักดันการพัฒนาโครงข่ายการสื่อสารไร้สายให้เข้าถึงในทุกพื้นที่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งชุมชนชนบทที่อยู่ในถิ่นทุรกันดาร เพราะเมื่อชุมชนเหล่านี้เข้าถึงแหล่งข้อมูลและเกิดการเรียนรู้ ก็จะช่วยให้เยาวชนและประชาชนในพื้นที่ดังกล่าวมีคุณภาพที่ดียิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงผลักดันให้ทุกคน พร้อมที่จะร่วมกันพัฒนาประเทศ ส่งผลให้ประเทศไทยเติบโต และแข็งแรงอย่างยั่งยืนต่อไป" นายสมชัย กล่าวสรุป