"การแปลงสภาพเป็นกองรีท จะช่วยให้กองทุนรวม SPWPF สามารถเติบโตต่อเนื่องต่อไปได้ในอนาคตจากการที่สามารถลงทุนในทรัพย์สินเพิ่มเติมได้ และสามารถใช้ประโยชน์จากเงินกู้ซึ่งมีต้นทุนต่ำกว่าต้นทุนของเงินทุน ซึ่งจะส่งผลให้เงินปันผลเติบโตสูงขึ้นเมื่อเทียบกับกรณีที่ไม่มีการแปลงสภาพ" นายสมิทธ์ กล่าว
นายสมิทธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า บลจ.ไทยพาณิชย์ วางแผนที่จะทำการแปลงสภาพเสร็จสิ้นให้ทันภายในปี 2559 นี้ หลังจากที่ผู้ถือหน่วยได้อนุมัติการแปลงสภาพและการลงทุนเพิ่มเติมดังกล่าวแล้ว เนื่องจากค่าธรรมเนียมและภาระภาษีส่วนใหญ่ที่จะเกิดจากการที่กองทุน SPWPF โอนทรัพย์สินเข้าไปที่กองรีทที่จะจัดตั้งขึ้นใหม่นั้นจะได้รับการยกเว้นจากกรมที่ดินและกรมสรรพากร
ด้านนายสงกรานต์ อิสสระ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัทชาญอิสสระ ดีเวล็อปเมนท์ จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ทางกลุ่มชาญอิสสระเห็นด้วยกับการแปลงสภาพกองทุนรวม SPWPF เป็นกองรีท เพื่อทำให้กองทุนสามารถเติบโตต่อไปได้จากการลงทุนเพิ่มเติม โดยนอกจากที่จะนำโรงแรมศรีพันวา เฟส 2 และบ้านพักตากอากาศ X29 ซึ่งมีมูลค่าราคาประเมินมากกว่า 1,200 ล้านบาท มาขายเข้ากองรีทใหม่ที่จะจัดตั้งขึ้นแล้ว ทางกลุ่มชาญอิสสระยังมีแผนที่จะพัฒนาโรงแรมศรีพันวา เฟส 3 ซึ่งจะเป็นทรัพย์สินที่กองรีทสามารถพิจารณาเข้าลงทุนได้เช่นกันในอนาคต
สำหรับความพร้อมในการจัดตั้งกองรีทหลังจากแปลงสภาพกองทุนรวม SPWPF ขณะนี้ได้มีการจัดตั้งบริษัท ชาญอิสสระ รีท แมเนจเมนท์ จำกัด (CIRM) เพื่อทำหน้าที่เป็นผู้จัดการกองทรัสต์ โดยอยู่ระหว่างการยื่นคำขอความเห็นชอบต่อสำนักงาน ก.ล.ต. ซึ่งคาดว่าจะเข้าเป็นผู้จัดการกองทรัสต์เมื่อมีการจัดตั้งกองทรัสต์ SPWREIT แล้วเสร็จ
ทั้งนี้ผลการดำเนินงานของกองทุนรวม SPWPF นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม 2556 สามารถจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหน่วยไปแล้ว 8 ครั้ง รวมจำนวนทั้งสิ้น 1.9423 บาทต่อหน่วย ซึ่งแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและโอกาสรับผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอ โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2559 กองทุนรวม SPWPF มีสินทรัพย์สุทธิอยู่ที่ 2,200 ล้านบาท