ดร.ลักษมี ปลั่งแสงมาศ ผู้ว่าการ วว. ชี้แจงว่า จากการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ส่งผลให้มีการใช้ทรัพยากรจำนวนมากและก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมส่วนรวมโดยเฉพาะปัญหามลพิษ ซึ่งมีความจำเป็นยิ่งที่ทุกภาคส่วนในสังคมจะต้องร่วมมือกันปลูกต้นไม้เพื่อเพิ่มพื้นที่สีเขียวผลิตก๊าซบริสุทธิ์ขึ้นสู่ชั้นบรรยากาศ ด้วยตระหนักถึงปัญหาดังกล่าว วว. จึงได้ดำเนินโครงการ "ราษฎร์รัฐร่วมภักดี ปลูกมหาพรหมราชินี ถวายแม่แห่งแผ่นดิน" ในรูปแบบกิจกรรมปลูกต้นมหาพรหมราชินีจำนวน 984 ต้น พรรณไม้ในพระนามสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ซึ่งเป็นพรรณไม้เฉพาะถิ่นของไทยที่ วว. ค้นพบครั้งแรกเมื่อปี พ.ศ. 2547 บริเวณที่แคบของยอดเขาสูงชันที่ระดับความสูง 1,100 เมตร ในเขตอำเภอเมือง จังหวัดแม่ฮ่องสอน เพื่อการอนุรักษ์ที่ยั่งยืน โดยการประสานความร่วมมือของบุคลากรภายในองค์กร หน่วยงานพันธมิตร ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐและประชาชนในพื้นที่ จังหวัดนครราชสีมา และผู้แทนสื่อมวลชน เฉลิมพระเกียรติพระนางเจ้าฯ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา 12 สิงหาคม 2559
"...วว. ดำเนินโครงการดังกล่าวเพื่อร่วมเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสพระราชพิธีมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 84 พรรษา...แสดงความจงรักภักดี น้อมระลึกในพระมหากรุณาธิคุณ และถวายเป็นราชสักการะอย่างสมพระเกียรติ ตลอดจนอนุรักษ์พรรณไม้ในพระนามมหาพรหมราชินีอย่างยั่งยืนด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรม...สร้างแหล่งเรียนรู้การเพาะปลูกและดูแลรักษาพรรณไม้เฉพาะถิ่นของไทยอย่างเป็นระบบ รวมทั้งเชื่อมความสัมพันธ์ภายในองค์กรและหน่วยงานเครือข่าย ด้วยการแสดงความรับผิดชอบต่อสังคมในการร่วมรักษาสิ่งแวดล้อมโดยรวม..." ผู้ว่าการ วว. กล่าว
"มหาพรหมราชินี" มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า Mitrephora siriketiae Weerassoriya, Chalermglin & M.K.R. Saunders เป็นพรรณไม้ชนิดใหม่ของโลกและเป็นพืชเฉพาะถิ่นของประเทศไทยเท่านั้น เป็นไม้ต้นขนาดเล็ก สูง 4-6 เมตร ลำต้นมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 5-8 เซนติเมตร มีลักษณะดอกเดี่ยวหรือเป็นช่อ 1-3 ดอกใกล้ปลายยอด เป็นพรรณไม้ที่มีดอกใหญ่ที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับดอกของพรรณไม้ชนิดอื่นๆ ในสกุลมหาพรหม คือ เมื่อบานเต็มที่ดอกมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 10 เซนติเมตร มีฤดูดอกบานเต็มต้นในช่วงเดือนพฤษภาคม ส่วนผลเป็นผลกลุ่ม มีผลย่อย 10-15 ผล รูปทรงกระบอก เส้นผ่านศูนย์กลาง 2.2-2.4 เซนติเมตร มีขนอ่อนปกคลุมหนาแน่น มีผลแก่ในช่วงเดือนตุลาคม