นายวีระ กล่าวต่อว่า ได้สอบถามว่าประชาชนคิดว่าการจัดกิจกรรม "วันแม่แห่งชาติ" มีความสำคัญอย่างไร พบว่า ร้อยละ 87.22 เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ "12 สิงหาคม วันแม่ของแผ่นดิน" ร้อยละ81.25 เพื่อให้ลูกได้แสดงความกตัญญูกตเวทีต่อแม่ในวันสำคัญ "วันแม่แห่งชาติ"ร้อยละ 60.72 เพื่อให้ลูกเห็นความสำคัญในบทบาทของแม่ที่มีต่อครอบครัว/ต่อสังคม ร้อยละ 52.20 เพื่อปลุกจิตสำนึกให้คนทำความดีเพิ่มขึ้น และร้อยละ 20.33 เป็นการรวมพลังเพื่อแสดงความจงรักภักดี ความสามัคคีของคนไทย นอกจากนี้ได้สอบถามความเห็นประชาชนคิดว่าจะทำกิจกรรมใดเพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 พบว่า ร้อยละ 72.59 ร่วมทำบุญตักบาตร ร้อยละ 67.01 ร่วมจุดเทียนชัยถวายพระพร ร้อยละ 45.34 ลงนามถวายพระพร ร้อยละ 40.37 ประดับธงชาติตามอาคารบ้านเรือน/ติดตั้งภาพพระบรมฉายาลักษณ์/สาทิสลักษณ์ เป็นต้น
นายวีระ กล่าวว่า วธ.ยังได้สอบถามประชาชนชื่นชอบกิจกรรมใดที่ วธ.จัดขึ้นในปีนี้ เพื่อเฉลิมพระเกียรติสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 7 รอบ 12 สิงหาคม 2559 พบว่า ร้อยละ63.04 ชื่นชอบสารคดีเฉลิมพระเกียรติ ร้อยละ 50.98 กิจกรรมตามหาบุคคลในภาพที่เคยถวายงานตามพระราชกรณียกิจ ร้อยละ 42.19 นิทรรศการ "พิพิธภัณฑ์ผ้าไทย ในหมู่พระพิมานพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติพระนคร" ร้อยละ 40.17 "The Greatest Beautiful" ผืนฟ้าผ้าครามนำเสนอการใช้ผ้าหม้อห้อมร่วมสมัย ร่วมกับมูลนิธิศิลปาชีพร้อยละ 37.12 การแสดง "มหกรรมลิเก 4 ภาค"นอกจากนี้พบว่าประชาชนเสนอแนะให้ วธ.จัดกิจกรรมเพิ่มเติมเนื่องในวันแม่แห่งชาติ อาทิ จัดการแสดงละครเกี่ยวกับแม่ การระลึกถึงพระคุณแม่ เพราะจะช่วยสร้างความตระหนักและกระตุ้นให้ลูกๆ ได้นึกถึงพระคุณแม่ โดยมีละครเป็นตัวดึงดูดผู้เข้าชม กิจกรรมเสริมสร้างการปลูกจิตสำนึกที่มีต่อแม่ เป็นกิจกรรมที่ดี และควรทำอย่างต่อเนื่อง เพราะลูกบางคนไม่กล้าแสดงออก /อยู่ไกลบ้านไม่มีโอกาสได้พบแม่ เป็นต้น