นายไพบูลย์ ภานุวัฒนวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.ไทยคม เปิดเผยว่า "ผลประกอบการในไตรมาสที่ผ่านมา มีการปรับตัวลดลงเมื่อเทียบกับไตรมาสก่อนหน้านี้โดยเฉพาะในบริการบรอดคาสต์ ซึ่งเป็นไปตามสภาวะเศรษฐกิจของประเทศที่มีการชะลอตัว แต่ไทยคมได้เตรียมแผนดำเนินธุรกิจรองรับ ด้วยการขยายตลาดไปยังลูกค้าต่างประเทศและภูมิภาค เช่น AEC และ เอเชียใต้ ซึ่งจัดว่าเป็นตลาดที่สำคัญของไทยคมเช่นกัน ขณะเดียวกัน ไทยคมก็สร้างนวัตกรรมโดยใช้จุดแข็งของดาวเทียมที่เข้าถึงผู้ใช้งานได้ทุกพื้นที่ มาพัฒนาบริการใหม่ๆ สร้างคุณค่าเพิ่มแก่ลูกค้าเพื่อเพิ่มโอกาสทางธุรกิจ"
ไทยคมมุ่งที่จะพัฒนาต่อไปด้วยการเพิ่มศักยภาพในการเชื่อมต่อโครงข่ายให้ครอบคลุมและเพียงพอ ควบคู่กับการหาลูกค้าเพิ่มเติม ขยายตลาดต่างประเทศ และการพัฒนาบริการและนวัตกรรมที่เหมาะสมกับความต้องการของภาคธุรกิจและผู้บริโภค ดังจะเห็นได้จากความสำเร็จในการส่งดาวเทียมไทยคม 8 ขึ้นสู่วงโคจร เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านสู่การถ่ายทอดสัญญาณโทรทัศน์ระบบความคมชัดสูงในระดับ HD และ UHD ในอนาคต ที่เริ่มเปิดให้บริการและมีลูกค้าเข้าใช้งานแล้ว ขณะเดียวกัน ไทยคมได้ผลักดันบริการสื่อสารไร้สายผ่านดาวเทียม "Mobility" เช่น การใช้งานเชื่อมต่อสัญญาณผ่านดาวเทียมบนเรือรบหลวงจักรีนฤเบศร การใช้งานเชื่อมต่อสัญญาณโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์สื่อสารความเร็ว 3G/4G ผ่านดาวเทียม "Mobile Backhaul" ซึ่งให้บริการได้ในทุกพื้นที่ ทุกเวลา ทั้งในภาวะปกติและภัยพิบัติ
ในส่วนของกลุ่มบริษัทในเครือนั้น บริษัท ซีเอส ล็อกซอินโฟ จำกัด (มหาชน) (ซีเอสแอล) มีรายได้ชะลอตัวลงในไตรมาสนี้จากธุรกิจสื่อโฆษณาผ่านสมุดโทรศัพท์หน้าเหลืองและการให้บริการข้อมูลเสียงทางโทรศัพท์และการให้บริการเสริมบนโทรศัพท์เคลื่อนที่ อย่างไรก็ดี ในส่วนของธุรกิจให้บริการศูนย์คอมพิวเตอร์ (Internet Data Center: IDC) และการให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงตามคอนโดมิเนียม ยังมีแนวโน้มการเติบโตต่อเนื่อง โดยมีจำนวนฐานลูกค้า ณ สิ้นไตรมาส 2/2559 อยู่ที่ 8,372 ราย เพิ่มขึ้นถึง 333.8% จากไตรมาส 2/2558
ด้าน บริษัท ลาว เทเลคอมมิวนิเคชั่นส์ จำกัด (แอลทีซี) ในประเทศลาว มีรายได้จากการให้บริการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะในส่วนของรายได้ดาต้าจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ การขายอุปกรณ์โทรศัพท์ และอินเทอร์เน็ตซิม โดย ณ สิ้นไตรมาส 2/2559 มีจำนวนผู้ใช้บริการโทรศัพท์ในระบบรวมทั้งสิ้น 2,045,167 ราย เพิ่มขึ้นจาก 1,837,065 ราย ณ สิ้นไตรมาส 2/2558 และยังคงมีส่วนแบ่งในตลาดโทรศัพท์เคลื่อนที่เป็นอันดับหนึ่ง คิดเป็น 53.7% ของตลาดรวม เพิ่มขึ้นจาก 49.5% ณ สิ้นไตรมาส 2/2558