นางจันทร์จิรา สมัครไทย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีเจซี เฮฟวี่ อินดัสทรี จำกัด (มหาชน) (BJCHI) ผู้ดำเนินธุรกิจวิศวกรรมด้านการรับจ้างผลิต และการติดตั้งอุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในกระบวนการผลิตในโรงงานอุตสาหกรรมตามแบบและขนาดที่ลูกค้ากำหนด เปิดเผยถึงแนวโน้มผลการดำเนินงานในปี 2559 จะเติบโตต่อเนื่องจากปีก่อน เนื่องมาจากในไตรมาสที่ 2/2559 บริษัทฯ ได้รับงานใหม่ในโครงการ TUPI FPSO Modules (03B) ซึ่งเป็นงานในกลุ่มอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ (ต่อเนื่องจากงานในเฟส 01B และ 02B ) มูลค่าโครงการประมาณ 2,800 ล้านบาท ส่งผลทำให้ปัจจุบัน มีปริมาณงานในมือ (Backlog) อยู่ประมาณ 3,100 ล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้เป็นรายได้ไปจนถึงปี 2560
"เราได้รับงานต่อเนื่องในโครงการ TUPI FPSO Modules (03B) จากโครงการ TUPI FPSO Modules (01B และ 02B) ซึ่งได้ลงนามกับเจ้าของโครงการโดยตรง ซึ่งถือเป็นอีกข้อพิสูจน์ที่สำคัญในความสำเร็จของบริษัทซึ่งเกิดจากการส่งมอบงานที่มีคุณภาพดี ตรงต่อเวลา และระดับราคาที่เหมาะสม จากนอกจากนี้ บริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างรอลุ้นผลการประมูลงานโครงการ High Potential Projects อีกมูลค่ากว่า 10,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะสามารถทราบผลสรุปได้ภายในเร็วๆ นี้ ส่งผลทำให้เรามั่นใจว่าแนวโน้มของรายได้ในปีนี้จะสามารถเติบโตไม่ต่ำกว่า 15% จากปีก่อน" นางจันทร์จิรา กล่าว
ส่วนกลยุทธ์การดำเนินงานในครึ่งปีหลังของปี 2559 บริษัทฯ ยังคงแผนรักษาฐานลูกค้าเดิมซึ่งเป็นพันธมิตรที่ดีต่อบริษัทฯ เสมอมา ประกอบกับมองหาตลาดต่างประเทศใหม่ๆ ทั่วโลกที่มีแนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมหนัก อาทิเช่น ในทวีปอเมริกาเหนือ เอเชีย ออสเตรเลีย รวมไปถึงโครงการในหลากหลายอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น โครงการพลังงานทดแทน โครงการโครงสร้างพื้นฐาน โครงการในอุตสาหกรรมเหมืองแร่ เป็นต้น ทั้งนี้เพื่อเป็นการกระจายความเสี่ยง ขยายฐานลูกค้าเพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของรายได้ และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุน
ขณะที่ผลประกอบการในไตรมาส 2/2559 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,766.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 913.19 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 107.03% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 853.24 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 191.71 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.93 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 6.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 179.79 ล้านบาท นอกจากนี้ยังได้รับกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนอีก 14.55 ล้านบาท
ส่วนผลประกอบการงวดหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2559 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 3,869.25 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1,612.91 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 71.48% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 2,256.33 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 530.43 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 189.33 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 55.51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำได้ 341.09 ล้านบาท