ดร. มารุต มณีสถิตย์ กรรมการผู้จัดการประจำประเทศไทย และพม่า บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ พีทีอี ลิมิเต็ด (หรือ HDS) กล่าวว่า จากการที่บิ๊กดาต้า คลาวด์ โมบิลิตี้ โซเชียลมีเดีย และแนวโน้มของ Internet of Things (IoT) ได้เข้ามาในทุกส่วนของธุรกิจและสังคม อย่างเป็นจริงและมากขึ้นๆ ดังนั้นในปี 2016 จึงเป็นปีแห่งความท้าทายขององค์กรในการรองรับแอพพลิเคชั่นใหม่ๆทางธุรกิจที่เกิดจากแพลตฟอร์มที่สามนี้ ซึ่งสิ่งที่หลายๆองค์กรให้ความสำคัญจึงเป็นเรื่องของดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) หรือการก้าวทันการเปลี่ยนแปลงสู่โลกดิจิทัลเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ ทั้งในเรื่องของการจัดการและดำเนินงาน, การสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ให้ลูกค้า และการสร้างโมเดลธุกิจใหม่ๆ ด้วยการนำข้อมูลต่างๆ ที่อยู่ในรูปแบบดิจิทัลในปัจจุบัน ทั้งแบบที่มีโครงสร้าง และไม่มีโครงสร้างมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด ด้วยการนำไปวิเคราะห์เชิงกลยุทธ์ธุรกิจ
จากการที่ บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ คอร์ปอเรชั่น ได้เข้าซื้อกิจการของ Pentaho Corporation ซึ่งเป็นผู้นำด้านการรวมระบบข้อมูล และการวิเคราะห์เชิงธุรกิจที่มีแพลตฟอร์มแบบโอเพ่นซอร์สสำหรับการใช้งานต่างๆ ด้านบิ๊กดาต้าไปเมื่อปี 2015 นั้น ถือเป็นวิสัยทัศน์ที่ HDS มุ่งเน้นเพื่อต่อยอดให้ลูกค้าองค์กรได้สามารถขับเคลื่อนข้อมูลบิ๊กดาต้าอันเป็นพื้นฐานในโลกดิจิทัล ไปสู่การวิเคราะห์เชิงโจทย์ธุรกิจ (Data Analytic) ซึ่ง HDS มีความมุ่งมั่นที่จะนำเสนอนวัตกรรมผลิตภัณฑ์และโซลูชั่นให้ธุรกิจลูกค้า ด้วยความเชี่ยวชาญในสาขาต่างๆจากกลุ่มบริษัทฮิตาชิ โดยรวมเอาข้อมูลจากอุปกรณ์หรือเครื่องจักร (machine-generated data) เทคโนโลยีสารสนเทศ (IT)เทคโนโลยีด้านการปฏิบัติงาน (OT) และการวิเคราะห์ขั้นสูงเข้าด้วยกัน เพื่อสร้างคุณค่าสูงสุดจากการใช้บิ๊กดาต้า และ IoT ให้กับลูกค้า
แต่เดิมซอฟต์แวร์ Pentaho เป็นที่รู้จักและมีชื่อเสียงในรุ่น Community Edition (Pentaho CE) ซึ่งเป็นโอเพ่นซอร์ส ประกอบด้วยฟังก์ชัน ETL, OLAP analysis, metadata, data mining, report, dashboard ที่เหมาะสำหรับนักพัฒนาระบบ ส่วนPentaho Enterprise จะครอบคลุมฟีเจอร์การใช้งานมากขึ้น ด้วยคุณสมบัติที่เน้นการวิเคราะห์และการ deployment เพื่อนำไปสู่กลยุทธ์เชิงธุรกิจระดับองค์กร ไม่ว่าจะเป็นความสามารถในการ job re-startability, load balancing และ การบริหารจัดการตามกฎข้อบังคับและรักษาความปลอดภัย อีกทั้งยังเพิ่มเครื่องมือช่วยในการจัดการข้อมูลที่มีขนาดใหญ่ให้จัดการได้ง่ายและรวดเร็ว ซอฟต์แวร์ Pentaho มีจุดเด่นในจัดการรวมข้อมูล (Data Integration), จัดทำรายงานในรูปแบบต่างๆ (Report & Visualize - Business Intelligence), และวิเคราะห์ข้อมูลเชิงลึกเพื่อการตัดสินใจทางธุรกิจ (Analytics) จะช่วยให้ลูกค้าสามารถควบคุมเส้นทางข้อมูลที่นำมาใช้ในการวิเคราะห์ได้อย่างครอบคลุม และยังมีคุณสมบัติเฉพาะ เช่น การบริหารจัดการเส้นทางข้อมูลขนาดใหญ่ วงจรชีวิตของข้อมูล และการรักษาความปลอดภัยข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
ล่าสุด Pentaho ได้รับตำแหน่ง วิสัยทัศน์ที่ก้าวไกล (Visionary) จากรายงานวิจัยของการ์ทเนอร์ แมจิค ควอแดรนท์ (Magic Quadrant) ในเดือนกุมภาพันธ์ 2016 สำหรับแพลตฟอร์ม Business Intelligence and Analytics ซึ่งแสดงให้เห็นว่า Pentaho เป็นผู้นำในการเล็งเห็นเทรนด์ของบิ๊กดาต้า, IoT, การฝังตัวเชื่อมต่อในการวิเคราะห์ (Embedded analytic) ลงไป application และการเชื่อมโยงสู่ระบบคลาวด์ เพื่อนำไปสร้างเป็นกลยุทธ์ด้านไอทีให้ธุรกิจขององค์กร โดย Pentaho สามารถทำงานประสานอย่างกลมกลืนกับเทคโนโลยี อย่าง Hadoop, Spark, Cassandra และ MongoDB, การเข้าถึง R และ Python แบบ built-in ตลอดการประยุกต์โซลูชั่นในการเรียนรู้อัจฉริยะ(Machine Learning)เช่น WEKA และการทำเหมืองข้อมูล (Data Mining) เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถขององค์กรสำหรับการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ ล่าสุด Pentaho ได้เปิดตัวเวอร์ชั่น 6.0 ที่เปิดตัวการกลั่นกรองข้อมูล (data refinery) ไปยัง Amazon Redshiftและ Cloudera Impala™ รวมถึงการทำงานผสานรวมกับ Apache Spark™ และ Python
ดร. มารุต กล่าวเพิ่มเติมว่า Pentaho Enterprise เป็นโลกใหม่ของการนำข้อมูลมาใช้ประโยชน์ในการพัฒนาธุรกิจยุคใหม่ ที่ข้อมูลมากขึ้นและมีความหลากหลาย ที่ไม่ได้จำกัดแค่ข้อมูลแบบฐานข้อมูลแบบเดิม จากการที่ Pentaho เปิดให้ผู้ใช้งานทุกคนสามารถมีส่วนร่วมในการพัฒนาและออกแบบการวิเคราะห์ข้อมูลเชิงธุรกิจได้ด้วยตนเอง ทำให้ได้กราฟฟิกที่ใช้งานง่าย แค่ลากและวาง (Drag & Drop) ช่วยลดเวลาการเขียนโปรแกรมที่ซับซ้อน และเคยยุ่งยากในการทำการวิเคราะห์
Pentaho Enterprise ทำให้ผู้ใช้สามารถแหล่งข้อมูลบิ๊กดาต้าที่หลากหลายอย่างครบถ้วน ไม่ว่าจะเป็นจากฐานข้อมูลทั่วไป (Relational Database) ฐานข้อมูลจากระบบวิเคราะห์เฉพาะด้าน (Analytic Database) ที่ใช้ข้อมูลแบบ SQL หรือ No SQL, ad hoc files, Hadoop และข้อมูลที่ไม่มีโครงสร้าง (Unstructured) ที่หลากหลาย เช่นจาก โซเชียลมีเดีย, log data และ ข้อมูลจากอุปกรณ์หรือเครื่องจักร (IoT) ที่ทำให้ การเข้าถึงและเลือกใช้ข้อมูลเพื่อธุรกิจได้รวดเร็วยิ่งขึ้น
"สำหรับประเทศไทย ภาครัฐ และเอกชน ตื่นตัวและหันมาให้ความสำคัญกับข้อมูลมากขึ้น แต่ข้อมูลยังคงเป็นทรัพยากรที่หลายองค์กร ไม่สามารถใช้ประโยชน์ได้เต็มที่ HDS เรามีเครือข่ายและพันธมิตร รวมถึง Hitachi TrueNorth Partners, ผู้วางระบบ, และผู้นำเทคโนโลยีด้านบิ๊กดาต้าต่างๆ ผนวกกับเทคโนโลยีและประสบการณ์ในธุรกิจอุตสากรรมต่างๆของกลุ่มฮิตาชิ ซอฟต์แวร์ที่ทันสมัย และทีมผู้เชี่ยวชาญของ Pentaho จะช่วยให้ ลูกค้าได้ใช้ประโยชน์สูงสุดจากบิ๊กดาต้า และ Internet of Things ได้ง่ายและมีประสิทธิภาพขึ้น"ดร. มารุต กล่าวทิ้งท้าย