นพ.อนุชา กล่าวอีกว่า แอพลิเคชั่น EMS 1669 เป็นแอพพลิเคชั่นที่สพฉ.ได้พัฒนาขึ้นเมื่อเกิดเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉิน โดยผู้ป่วยสามารถเรียกรถพยาบาลได้ทันที เสมือนกับการแจ้งเหตุเจ็บป่วยฉุกเฉินผ่านโทรศัพท์สายด่วน 1669 ซึ่งผู้ใช้บริการสามารถระบุพิกัดตำแหน่งที่อยู่ของผู้ป่วยฉุกเฉินได้อย่างแม่นยำ ทำให้ทีมแพทย์ฉุกเฉินเข้าช่วยเหลือผู้ป่วยได้รวดเร็ว หากเราพบเห็นผู้บาดเจ็บหรือผู้ป่วยฉุกเฉินเพียงแค่กดปุ่มเรียกรถพยาบาล จะทำให้ศูนย์สั่งการรู้พิกัดจุดเกิดเหตุ และส่งทีมกู้ชีพออกปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ป่วยที่มีอาการฉุกเฉินได้ทันที นอกจากนี้ผู้แจ้งเหตุยังสามารถแนบไฟล์ภาพเหตุการณ์ รวมทั้งสามารถแจ้งเหตุเพิ่มเติมผ่านการสนทนากับศูนย์สั่งการได้อีกด้วย การให้บริการผู้ป่วยฉุกเฉินผ่านแอพพลิเคชั่น 1669 จึงเป็นอีกหนึ่งช่องทางที่จะทำให้ผู้ป่วยฉุกเฉินได้รับการดูแลที่ได้มาตรฐาน จากเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์ในรถที่ผ่านรับการรับรอง และเจ้าหน้าที่ที่มีความเชี่ยวชาญในการให้ความช่วยเหลือตลอด 24 ชั่วโมง ซึ่งจะทำให้ลดการบาดเจ็บซ้ำ อีกทั้งยังมีการประสานงานที่ครอบคลุมทั้งทางด้านจราจรและด้านโรงพยาบาล ที่สำคัญสุดคือให้บริการฟรี ตลอด 24 ชั่วโมง
"นอกจากนี้แอพลิเคชั่น EMS 1669 ยังมีคำแนะนำในการปฏิบัติตัวเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน อาทิ แนวทางการช่วยเหลือผู้ป่วยบาดเจ็บที่ศีรษะ ได้รับสารเคมี ภาวะเลือดออก หมดสติกะทันหัน หัวใจวาย แผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก โรคหลอดเลือดสมอง เป็นต้น รวมทั้งยังมีรายชื่อโรงพยาบาลที่อยู่ใกล้กับจุดเกิดเหตุด้วย" นพ.อนุชากล่าว
ด้านนายวีรชัย พัชโรภาสวงศ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการอาวุโส ส่วนงานการตลาดและงานขาย กลุ่มลูกค้าองค์กร บริษัทเอไอเอส กล่าวว่า เอไอเอสต้องการเดินหน้ายกระดับการใช้ชีวิตของคนไทยให้ได้รับความปลอดภัย และอุ่นใจมากยิ่งขึ้น ภายใต้แนวคิด"Better Living" โดยได้จับมือกับสพฉ. ผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่น EMS1669 สายด่วนช่วยชีวิต ด้วยการยกเว้นค่าบริการในการเชื่อมต่อดาต้าตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เมื่อมีการกดเรียกรถพยาบาลฉุกเฉินผ่านแอพลิเคชั่น EMS 1669 ซึ่งการยกเว้นการค่าบริการดาต้าในครั้งนี้ เพื่อให้ลูกค้าเอไอเอสมีความปลอดภัยในชีวิตเมื่อเกิดกรณีเจ็บป่วยฉุกเฉินมากขื้น