นายเจน นำชัยศิริ ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ปัจจุบันปัญหาด้านน้ำ ทั้งวิกฤตภัยแล้ง และปัญหาน้ำท่วมที่เกิดขึ้น ในอดีต มีแนวโน้มที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องในอนาคต ซึ่งเป็นประเด็นสำคัญระดับประเทศที่ส่งผลกระทบต่อทุกภาคส่วนทั้งภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ซึ่งภาคอุตสาหกรรมและภาครัฐ ได้พยายามหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาดังกล่าว โดยเกิดจากการบูรณาการร่วมกันของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ฉะนั้นการแก้ไขปัญหาด้านการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน เป็นปัจจัยสำคัญที่ผู้เกี่ยวข้องทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกัน โดยเฉพาะประเด็นด้านการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพ
"สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย ในฐานะตัวแทนภาคอุตสาหกรรม มีนโยบายในการส่งเสริมให้สมาชิกสภาอุตสาหกรรมฯ เป็นองค์กรที่ประกอบกิจการโดยยึดหลักการมีธรรมาภิบาลที่ดี และสามารถอยู่ร่วมกับชุมชนได้อย่างยั่งยืน จึงได้รณรงค์และส่งเสริมภาคอุตสาหกรรมให้มีการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ มีการใช้น้ำอย่างประหยัดและคุ่มค่า รวมถึงการประสานความร่วมมือกับหน่วยงานต่างๆ เพื่อให้เกิดการบริหารจัดการน้ำอย่างยั่งยืน โดย สถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน ซึ่งเป็นหน่วยงานหนึ่งภายใต้การกำกับดูแลของสภาอุตสาหกรรมฯ ได้กำหนดจัดหลักสูตรผู้นำด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (Water Leadership Program) รุ่นที่ 6 ขึ้น เพื่อเป็นการแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือของภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม รวมทั้งภาคประชาชนที่มีเป้าหมายเดียวกันในการสร้างบุคลากรด้านน้ำให้มีความรู้ ความสามารถในการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อร่วมแก้ไขปัญหาด้านน้ำของประเทศอย่างยั่งยืน" ประธาน ส.อ.ท. กล่าว
ด้าน นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย งานสถาบันสิ่งแวดล้อมอุตสาหกรรมและสถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน กล่าวว่า สถาบันน้ำเพื่อความยั่งยืน ได้เล็งเห็นถึงความสำคัญในการส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำที่มีประสิทธิภาพและยั่งยืน ซึ่งต้องเกิดจากการบริหารจัดการโดยบุคลากรที่มีศักยภาพ และมีความรู้ ความสามารถ จึงได้มีแนวคิดร่วมกับหน่วยงานต่างๆที่มีส่วนในการบริหารจัดการน้ำของประเทศ ไม่ว่าจะเป็นภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชน ในการจัดหลักสูตรผู้นำด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ (Water Leadership Program) ขึ้น โดย สถาบันน้ำฯ ได้จัดอบรมหลักสูตรดังกล่าวมาแล้วจำนวน 5 รุ่น ซึ่งประสบความสำเร็จในการสร้างบุคลากรที่สามารถร่วมแก้ไขการบริหารจัดการน้ำของประเทศ และได้เตรียมจัดหลักสูตรดังกล่าวอย่างต่อเนื่องในปี 2559
โดยตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา สถาบันน้ำฯ ได้จัดอบรมหลักสูตรผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำ รุ่นที่ 1-5 (Water Leadership Program 1-5) โดยมีผู้สำเร็จหลักสูตรทั้งหมด จำนวน 97 ท่าน มีวัตถุประสงค์เพื่อ
1. เพื่อพัฒนาบุคลากรด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภาคอุตสาหกรรม ให้สอดคล้องกับการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ
2. เพื่อให้ผู้สำเร็จหลักสูตรดังกล่าว มีการบูรณาการร่วมกันด้านข้อมูลข่าวสาร สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ในอนาคต
3. เพื่อสร้างนักบริหารระดับต้นด้านการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำภาคอุตสาหกรรม ครอบคลุมผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำของประเทศทุกภาคส่วน
สำหรับในปี 2559 สถาบันน้ำฯ ได้กำหนดให้มีการจัดหลักสูตรผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำ รุ่นที่ 6 ระหว่างเดือนกันยายน ถึง เดือนธันวาคม 2559 โดยมีรายละเอียดหัวข้อการอบรมหลักสูตรฯ คือ
1. ความรู้เบื้องต้นด้านอุตุนิยมวิทยา
2. ความรู้ด้านภูมิสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการน้ำ
3. การใช้ข้อมูลสารสนเทศ เพื่อการวางแผนและจัดการทรัพยากรน้ำ
4. แผนยุทธศาสตร์การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
5. การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ 25 ลุ่มน้ำ
6. การบริหารจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำเพื่อลดความขัดแย้ง
7. การจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล 27 แอ่งน้ำบาดาล
8. กฎระเบียบ การควบคุมการทิ้งน้ำและการบำบัดน้ำเสีย
9. การจัดการน้ำเสียสำหรับนิคมอุตสาหกรรม
10. กฎหมายที่เกี่ยวข้องในการจัดการน้ำเสีย
11. เทคโนโลยีในการผลิตน้ำประปา
12. เทคโนโลยีในการบำบัดน้ำเสีย
13. เทคโนโลยีในการนำน้ำเสียกลับมาใช้ใหม่
14. เทคโนโลยีในการผลิตน้ำจืดจากน้ำทะเล
"หวังเป็นอย่างยิ่งว่าหลักสูตรผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำ รุ่นที่ 6 นี้ จะสามารถสร้างบุคลากรที่เป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำ และช่วยแก้ไขปัญหา ด้านน้ำ รวมทั้งส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำของประเทศสู่ความยั่งยืนต่อไป" นายสมชาย กล่าว..