ไทยพร้อมเป็นศูนย์กลางรับตรวจตัวอย่างเชื้อโรคที่ส่งต่อมายังประเทศข้างเคียง และเป็น training center ด้านการพัฒนาห้องปฏิบัติการ

พฤหัส ๒๕ สิงหาคม ๒๐๑๖ ๑๔:๐๘
กระทรวงสาธารณสุขไทยโชว์ศักยภาพการเป็นผู้นำด้านการตรวจวินิจฉัยโรคติดต่อร้ายแรงสูง และมาตรฐานห้องปฏิบัติการ ในเวทีการประชุมวาระความมั่นคงสุขภาพโลก (Global Health Security Agenda :GHSA) พร้อมเป็นศูนย์กลางรับตรวจตัวอย่างเชื้อโรคที่ส่งต่อมายังประเทศข้างเคียงและเป็น training center ด้านการพัฒนาห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข

นายแพทย์อภิชัย มงคล อธิบดีกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์กล่าวภายหลังการประชุมสรุปผลร่วมกัน (Face-to-Face) ระหว่างกลุ่มประเทศผู้นำของวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลก ของชุดกิจกรรม Detect1: ระบบห้องปฏิบัติการแห่งชาติ (National Laboratory System) จากการประชุมระหว่างประเทศ "Enhancing Regional Partnership towards Strengthening Laboratory System in Accelerating GHSA'S Implementation: Detect 1" ณ โรงแรม เดอะเบอร์เคลีย์ ประตูน้ำ กรุงเทพมหานครว่าซี ประเทศไทยโดยกระทรวงสาธารณสุขได้ประกาศเจตจำนงในการประชุมสุดยอดความมั่นคงสุขภาพโลก (Global Health Security Agenda :GHSA)ซึ่งจัดขึ้นเมื่อปี 2557ที่ทำเนียบขาว กรุงวอชิงตัน ดีว่าไทยจะเป็นผู้นำในด้านการพัฒนาศักยภาพและสร้างเครือข่ายทางห้องปฏิบัติการให้สามารถตรวจวินิจฉัยเชื้อโรคติดต่ออันตรายร้ายแรง ได้แม่นยำ รวดเร็ว และการพัฒนากำลังคนด้านระบาดวิทยา เพื่อทำหน้าที่เฝ้าระวัง สอบสวนและควบคุมโรค

กระทรวงสาธารณสุข โดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ มีศักยภาพในการตรวจทางห้องปฏิบัติการได้ครอบคลุมโรคร้ายแรงต่างๆ มีประสบการณ์และความพร้อมในด้านการฝึกอบรมระหว่างประเทศในหลายด้าน จึงมีความพร้อมที่จะเป็นศูนย์กลางรับตรวจตัวอย่างที่ส่งต่อมายังประเทศข้างเคียง และเป็น training center ด้านการพัฒนาห้องปฏิบัติการตามมาตรฐานกระทรวงสาธารณสุข

การประชุม GHSA หรือ Global Health Security Agenda หรือวาระความมั่นคงด้านสุขภาพโลกเป็นการประชุมร่วมระหว่างประเทศเจ้าภาพหลักและประเทศสมาชิกในภูมิภาค ASEAN และ SARRC และองค์การระหว่างประเทศที่เป็นแหล่งผู้เชี่ยวชาญและแหล่งทุน เพื่อมุ่งหวังทำให้โลกมีความปลอดภัย และมั่นคงจากภัยคุกคามของโรคติดเชื้ออันตรายร้ายแรงต่างๆ รวมทั้งเป็นเครื่องมือที่ช่วยเร่งการพัฒนาสมรรถนะด้านชีวะของกฎหมายอนามัยระหว่างประเทศ 2548 (International Health Regulations 2005 / IHR) เพื่อร่วมกันผลักดันให้กิจกรรมที่ปรากฏใน Road Map สามารถเริ่มดำเนินการได้อย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืน ซึ่งประเทศไทยโดยกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รับหน้าที่เป็นเจ้าภาพพัฒนาระบบห้องปฏิบัติการสาธารณสุขของประเทศไทยให้สามารถตรวจพิสูจน์ยืนยันโรคติดต่อร้ายแรงสูง ได้อย่างถูกต้อง รวดเร็ว ครอบคลุมทั้งประเทศ รวมทั้งให้มีระบบการส่งต่อตัวอย่างที่รวดเร็ว มีประสิทธิภาพ และรณรงค์ ส่งเสริมให้เกิดความร่วมมือจากประเทศต่างๆในโลกโดยเฉพาะในภูมิภาคใกล้เคียง ในการพัฒนาศักยภาพระบบห้องปฏิบัติการให้สามารถรับมือกับภัยพิบัติที่เกิดจากโรคติดต่อร้ายแรงสูง ที่เป็นโรคติดต่อข้ามพรมแดน เช่น โรค Ebola, โรคเมอร์ส ฯลฯ ซึ่งเป็นภัยร้ายแรงที่ไม่มีพรมแดน การเสริมสร้างสมรรถนะทางห้องปฏิบัติการเพื่อตอบโต้กับโรคร้ายแรงของภูมิภาค จึงเท่ากับเป็นการสร้างความมั่นคงด้านสุขภาพแก่ประชาชน

นายแพทย์อภิชัยกล่าวต่อไปว่า ที่ประชุมได้บรรลุข้อตกลงร่วมกันในการพัฒนาศักยภาพห้องปฏิบัติการและการมีระบบการส่งต่อตัวอย่างที่มีประสิทธิภาพโดยมีไทยเป็นประเทศผู้นำร่วมกับ สหรัฐอเมริกาและสาธารณรัฐแอฟริกาใต้ มีประเทศผู้สนับสนุนอีก 11 ประเทศ ได้แก่ แคนาดา จีน เอธิโอเปีย ฟินแลนด์ จอร์เจีย อิสราเอล ญี่ปุ่น มาเลเซีย เม็กซิโก เปรู สมาพันธรัฐสวิสเซอร์แลนด์ เยเมน และสหราชอาณาจักร มีเป้าหมายเพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ระบบห้องปฏิบัติการ มีขีดความสามารถในการตรวจ ณ จุดดูแลผู้ป่วยและการตรวจทางห้องปฏิบัติการที่ทันสมัย ซึ่งจะส่งผลดีต่อประชาชนทั้งในระดับประเทศ ระดับภูมิภาค และระดับโลก ให้ได้รับการปกป้องภัยอันตรายจากความเสี่ยงที่จะเกิดจากการติดเชื้อโรคระบาดข้ามพรมแดนที่มีอันตรายร้ายแรงสูง เป็นการรักษาชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ทันท่วงที เพราะห้องปฏิบัติการที่มีศักยภาพจะสามารถตรวจวินิจฉัยได้อย่างรวดเร็ว ถูกต้อง แม่นยำ ช่วยให้ทีมแพทย์สามารถทำการรักษาได้รวดเร็ว ตรงโรค ในขณะที่ทีมป้องกันสามารถยับยั้งการเคลื่อนย้าย และกักกันสัตว์ป่วยหรือสัตว์ที่เป็นพาหะโรค ยับยั้งการเดินทางของผู้ป่วยหรือผู้ต้องสงสัยว่านำเชื้อโรค และกักกัน เฝ้าระวังการกระจายเชื้อจากคนสู่คน สัตว์สู่คน ซึ่งเท่ากับว่าประเทศไทยได้เดินหน้าไปอีกขั้น ในการจะทำให้ภูมิภาคนี้ของโลกมั่นคงขึ้น"

"นอกจากนี้ที่ประชุมยังได้ให้การสนับสนุนการดำเนินการตามแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์การเสริมสร้างความเข้มแข็งระบบห้องปฏิบัติการระดับภูมิภาค ซึ่งมีทั้งหมด 7 ประเด็นได้แก่ 1.ยุทธศาสตร์ นโยบาย การขึ้นทะเบียน และการอนุญาต 2.ขีดความสามารถการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการ 3.ระบบบริหารคุณภาพ 4.ระบบบริหารความเสี่ยงทางชีวภาพ 5. การทำงานเป็นเครือข่าย 6.สุขภาพหนึ่งเดียว (สุขภาพคนและสุขภาพสัตว์) และ 7.กำลังคนทางห้องปฏิบัติการ โดยคาดหวังให้แต่ละประเทศนำไปปรับใช้เป็นกรอบการคัดเลือกกิจกรรมที่จะดำเนินการในระดับภูมิภาค และเป็นเครื่องมือในการติดตามความคืบหน้าของการพัฒนาระบบห้องปฏิบัติการตามแนวทาง GHSA ตามบริบทและความเหมาะสมกับสถานการณ์ของแต่ละประเทศ ซึ่งไทยได้กำหนดแผนเป็นเจ้าภาพจัดประชุมเชิงปฏิบัติการระดับภูมิภาคครั้งต่อไปในเดือนพฤศจิกายน 2559 โดยมุ่งเน้นให้มีการนำเสนอความสำเร็จของการดำเนินงานด้านพัฒนาระบบห้องปฏิบัติการตามแผนที่ทางเดินยุทธศาสตร์ที่ได้ร่วมกันกำหนดด้วย"นายแพทย์อภิชัยกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕ พ.ย. ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๕ พ.ย. คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๕ พ.ย. พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๕ พ.ย. BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๕ พ.ย. บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๕ พ.ย. PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๕ พ.ย. CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๕ พ.ย. ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ