นายดำรงค์ ภูติภัทร์ ผู้อำนวยการเทคนิคและโครงการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) (KBS) และ นายถวัลย์ คุ้มกลาง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา ได้ร่วมกันลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) ความร่วมมือในการพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนการปลูกอ้อยสมัยใหม่ โดยมีสักขีพยานร่วมลงนาม ได้แก่ นายมงคล ทวีวิทย์ ที่ปรึกษาฝ่ายเพิ่มผลผลิต บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) และนายยิ่งยง ดุรงค์ดำรงค์ชัย รองผู้อำนวยการฝ่ายบริหารทรัพยากร โดยได้รับเกียรติจาก ดร.บุญส่ง จำปาโพธิ์ ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เป็นประธานในพิธี ณ ห้องประชุม เลื่อน บุญฑริก วิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีนครราชสีมา อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา
"พิธีลงนามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในครั้งนี้ เป็นการบันทึกข้อตกลงร่วมกันเพื่อร่วมกันพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนการปลูกอ้อยในรูปแบบ Modern Farm ในระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) และ ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) รวมถึงระดับเทคโนโลยีบัณฑิต (ป.ตรี) เพื่อเป็นการส่งเสริมและพัฒนาการศึกษาให้แก่นักศึกษาให้เรียนรู้วิธีการปลูกอ้อยอย่างถูกวิธี ด้วยการบริหารจัดการลดต้นทุนเพื่อเพิ่มผลผลิตในการปลูกอ้อย และช่วยพัฒนาชุมชนของตน อีกทั้งยังเป็นการสนองรับนโยบายรัฐบาลที่จะให้เกษตรกรหันมาปลูกพืชที่ใช้น้ำน้อยแทนการปลูกข้าวได้ด้วย" นายดำรงค์ ภูติภัทร์กล่าว
ซึ่งนอกเหนือจากความร่วมมือทางวิชาการแล้ว ทางบริษัทฯและทางสถาบันยังได้จัดให้มีการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ผ่านอาจารย์และวิทยากรในด้านเครื่องจักรกลการเกษตร การจัดการแปลงอ้อย และยังจัดทำแปลงสาธิตการปลูกอ้อยแบบ Modern Farm เพื่อให้นักศึกษาได้ลงพื้นที่ปฏิบัติจริง
นายดำรงค์ กล่าวว่า "บริษัทมีแนวคิดที่จะดำเนินธุรกิจด้วยความรับผิดชอบต่อสังคม และได้นำเอาแนวคิดเรื่องความรับผิดชอบต่อสังคมและบรรษัทภิบาลเป็นส่วนหนึ่งในการกำหนดกลยุทธ์ และแนวทางในการดำเนินธุรกิจซึ่งต้องคำนึงถึงความพึงพอใจของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (Stakeholders) ทุกกลุ่ม อันได้แก่ ลูกค้าและผู้บริโภค ชาวไร่ ชุมชน สังคมและสิ่งแวดล้อม พนักงาน ภาครัฐ คู่ค้าและคู่แข่ง และผู้ถือหุ้น อย่างครบถ้วนสมดุล โดยมีเป้าหมายในความสำเร็จขององค์กรและการอยู่ร่วมในสังคมอย่างยั่งยืน การร่วมพัฒนาหลักสูตรการเรียนการสอนการปลูกอ้อยในรูปแบบ Modern Farm เป็นหลักสูตรที่นักศึกษาสามารถนำไปใช้ได้จริงทั้งช่วยลดต้นทุนการผลิต เพิ่มรายได้ผลกำไรและก่อให้เกิดความยั่งยืนในการทำไร่อ้อยของเกษตรกร ซึ่งถือเป็นการสนับสนุนกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจของบริษัทอย่างแท้จริง"
ปัจจุบันบริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) มีโรงงานใน อ.ครบุรี จ.นครราชสีมา ได้แก่ โรงงานน้ำตาลครบุรี ก่อตั้งในปี 2539 ด้วยกำลังการผลิต 35,000 ตันต่อวัน และ โรงงานผลิตไฟฟ้าครบุรี ก่อตั้งในปี 2551 ผลิตไอน้ำและกระแสไฟฟ้าใช้ภายในโรงงานน้ำตาลและยังสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าส่วนเกินขายให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิต (กฟผ.) ในส่วนของแผนการลงทุนของบริษัทฯ นายดำรงค์ ภูติภัทร์ ผู้อำนวยการเทคนิคและโครงการ บริษัท น้ำตาลครบุรี จำกัด (มหาชน) (KBS) กล่าวว่า บริษัทได้รับอนุมัติ ให้ลงทุนก่อสร้างโรงงานน้ำตาลแห่งใหม่ขนาด 20,000 ตันอ้อย/วัน ที่ อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา ซึ่งบริษัทฯคาดว่าจะใช้เวลาในการดำเนินการประมาณ 3 ปี ขณะนี้อยู่ในระหว่างการยื่นรายงานผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมและซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม(สผ.)