นายณรงค์กล่าวว่า "นโยบายของโครงการเรานั้นจะไม่เหมือนกับที่อื่น เพราะเราเน้นการดูแลอย่างต่อเนื่องและครอบคลุมทุกอย่าง ไม่ว่าจะเป็นหนังสือที่เรามีซื้อเพิ่มเติมสมทบเข้าห้องสมุดเป็นประจำทุกปี เราดูแลแม้แต่เฟอร์นิเจอร์โต๊ะเก้าอี้เบาะรองนั่ง รวมถึงระบบคอมพิวเตอร์และอินเตอร์เน็ตเพื่อการสืบค้นในห้องสมุดเราก็ช่วยดูแล ติดตั้งและซ่อมแซมให้เมื่อเกิดการชำรุด ในแง่ของบรรณารักษ์เราก็มีการจัดงบประมาณเพื่อว่าจ้างผู้ช่วยบรรณารักษ์มาประจำห้องสมุด เพื่อให้ห้องสมุดสามารถเปิดทำการได้ตลอดเวลา รองรับการเข้ามาใช้งานของนักเรียนทุกเวลา จะเห็นได้ว่าจากโครงการเริ่มต้นเมื่อปีแรกจนกระทั่งถึงปีปัจจุบัน เรามีการพัฒนาปรับปรุงห้องสมุดของเราให้มีความทันสมัย และตอบโจทย์การใช้งานของนักเรียนอย่างเต็มที่ ผมจึงเชื่อมั่นว่าโครงการโลกนิทานของหนูของเรานั้น เป็นกิจกรรมเพื่อสังคมที่ค่อนข้างจะสมบูรณ์แบบที่สุด,ต่อเนื่องที่สุดและภูมิใจที่สุดเท่าที่เราเคยทำมาเลยทีเดียว"
สำหรับการปรับปรุงห้องสมุดโรงเรียนบ้านปลายคลองน้อยในครั้งนี้ บริษัทฯ ได้รับความร่วมมือจากพันธมิตรจิตอาสาจากหลายองค์กรเข้าร่วมสนับสนุนด้วย ได้แก่ คณะอาจารย์และนักศึกษาจากคณะจิตรกรรมประติมากรรมและภาพพิมพ์ มหาวิทยาลัยศิลปากร จำนวนทั้งสิ้น 34 ท่าน ร่วมลงพื้นที่เพื่อวาดภาพฝาผนังและกำแพงห้องสมุดในสวน โดยใช้เวลาทั้งสิ้น 3 วัน 2 คืนจนเสร็จเรียบร้อย นอกจากนั้นยังมีผู้ร่วมอุดมการณ์อีก 2 คณะ ที่เล็งเห็นถึงความสำคัญของการสร้างห้องสมุดมอบให้แก่โรงเรียนที่ขาดแคลน คือ กลุ่มผู้บริหารและพนักงานของบริษัทคอนเนค เคเบิ้ล จำกัด ผู้นำด้านธุรกิจโซลาร์เซลล์ สายเคเบิลและอุปกรณ์ไฟฟ้า และกลุ่มสมาชิกชมรมมหาวิทยาลัย-ชาวบ้าน มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ วิทยาเขตบางเขน ซึ่งมีทั้งศิษย์เก่าและนิสิตที่กำลังศึกษาอยู่ ที่ได้มาช่วยกันจัดหนังสือขึ้นชั้นและตกแต่งห้องสมุดให้แก่โรงเรียนบ้านปลายคลองน้อยจนเสร็จสมบูรณ์ และเปิดให้นักเรียนเข้าใช้บริการอย่างเป็นทางการไปเมื่อวันที่ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา
เกี่ยวกับโครงการโลกนิทานของหนู
โครงการโลกนิทานของหนู คือ หนึ่งในกิจกรรมเพื่อตอบแทนสังคมของบริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัด ก่อตั้งขึ้นตามเจตนารมย์ของคุณณรงค์ อิงค์ธเนศ ประธานบริหาร ที่ต้องการส่งเสริมให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่าน, มีจินตนาการที่กว้างไกล และรู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ โดยเห็นว่าการปลูกฝังนิสัยรักการอ่านควรเริ่มตั้งแต่ยังเป็นเด็ก และการใช้หนังสือนิทานเป็นสื่อคือจุดเริ่มต้นที่ดีที่สุด เพราะหนังสือนิทานส่วนใหญ่มีเนื้อหาสร้างสรรค์ มีสีสันสวยงาม และเต็มไปด้วยจินตนาการจากทั้งของผู้แต่งและผู้วาดภาพประกอบ จึงมีความเชื่อมั่นว่าหนังสือนิทานสามารถเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกระตุ้นและปลูกฝังให้เด็กไทยมีนิสัยรักการอ่านตั้งแต่เยาว์วัย อีกทั้งยังสามารถช่วยเสริมสร้างจินตนาการของเด็กผู้ซึ่งจะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพต่อไปในอนาคตได้เป็นอย่างดี
จึงริเริ่มโครงการนี้ขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2550 ด้วยการจัดสร้างห้องสมุดนิทานที่ออกแบบตกแต่งอย่างปราณีตสวยงาม ประกอบด้วยภาพศิลปะบนผนัง ชั้นวางหนังสือสีสันสดใส หนังสือนิทานหลากหลายประเภททั้งภาษาไทยและภาษาอังกฤษ โรงละครหุ่นมือ พร้อมมุมของเล่นเสริมสร้างจินตนาการ ให้แก่โรงเรียนระดับประถมศึกษาในเขตปริมณฑลและจังหวัดใกล้เคียง โดยมีพนักงานจิตอาสาของบริษัทเดอะแวลลูซิสเตมส์ จำกัดเป็นผู้ดำเนินงานในระยะแรก จนถึงปัจจุบัน มีพนักงานประจำที่ทำหน้าที่ดูแลเกี่ยวกับกิจกรรมเพื่อสังคมของบริษัทโดยเฉพาะ
ต่อมาในปี พ.ศ. 2552 ได้ปรับนโยบายใหม่เป็นสร้างห้องสมุดนิทานควบคู่ไปกับห้องสมุดวิชาการและมุมคอมพิวเตอร์เพื่อให้ครูและนักเรียนได้รับประโยชน์จากการใช้ห้องสมุดได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น โดยแบ่งพื้นที่ภายในห้องสมุดออกเป็น 2 ส่วน คือ ส่วนของห้องสมุดนิทาน ประกอบด้วยหนังสือนิทานที่จัดแบ่งหมวดหมู่ตามกลุ่มอายุ ได้แก่ 3-6 ปี, 7-9 ปี, 10-12 ปี, มุมนิทานภาษาอังกฤษ พร้อมด้วยโรงละครหุ่นมือและมุมของเล่นเสริมสร้างจินตนาการ และส่วนของห้องสมุดวิชาการ ประกอบด้วยหนังสือวิชาการที่จัดแบ่งหมวดหมู่ตามระบบทศนิยมดิวอี้ มุมบรรณารักษ์ และมุมคอมพิวเตอร์ โดยยึดหลักห้องสมุด 3 ดี ของกระทรวงศึกษาธิการ เป็นพื้นฐาน
ติดตามรายละเอียดของโครงการโลกนิทานของหนูเพิ่มเติมได้ที่ https://www.facebook.com/FairyTaleLibrary และhttps://www.youtube.com/channel/UCcWSHT4grTpl3RWT25JNVPg