นางสาวพิมพ์ผกา นิจการุณ กรรมการผู้จัดการธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) หรือ RJH เปิดเผยถึงผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) จำนวน 74.99 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 16 บาท มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาท ในระหว่างวันที่ 24-26 สิงหาคม 2559 ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับการตอบรับในการจองซื้อหุ้น IPO เป็นอย่างดีจากนักลงทุน มีนักลงทุนสนใจจองซื้อหุ้นของบริษัทฯ จำนวนมาก โดยจัดสรรนักลงทุนสถาบัน 40% ขายรายย่อย 60% สะท้อนถึงความเชื่อมั่นในธุรกิจของบริษัท โดยหุ้นRJH จะเข้าจดทะเบียนใน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจการแพทย์ในวันที่ 1 กันยายน 2559
สำหรับหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน)ได้เปิดจองซื้อผ่านบริษัทหลักทรัพย์ 4 แห่งคือ บริษัทหลักทรัพย์ธนชาต จำกัด (มหาชน) บริษัทหลักทรัพย์ เคที ซีมิโก้ จำกัด บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) และบริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด (มหาชน)
ทั้งนี้ราคาไอพีโอที่ 16 บาท เป็นระดับราคาที่นักลงทุนสถาบันแสดงความประสงค์จะจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่จัดสรรถึง 12 เท่า ถือว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในการเปิดจองซื้อหุ้นไอพีโอในครั้งนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความมั่นใจที่นักลงทุนมีต่อหุ้น RJH ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยพื้นฐานของบริษัทที่แข็งแกร่ง และนักลงทุนเล็งเห็นถึงศักยภาพการเติบโตในอนาคตจากการที่บริษัทเตรียมแผนที่จะขยายกิจการรองรับกลุ่มลูกค้าเงินสดมากขึ้น
ด้านนายแพทย์วชิระ วุฒิกุลประพันธ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โรงพยาบาลราชธานี จำกัด (มหาชน) (RJH) กล่าวว่ากระแสตอบรับจากนักลงทุนดีเกินกว่าที่คาดไว้เห็นได้อย่างชัดเจน ตั้งแต่ช่วงที่ไปโรดโชว์นำเสนอข้อมูลให้นักลงทุนสถาบันและมียอดจองล้นหลายเท่าตัว และนักลงทุนสถาบันก็ขอมาเยี่ยมกิจการของโรงพยาบาลเป็นจำนวนมาก
นายแพทย์วชิระ กล่าวต่อว่า ปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัท เนื่องจากเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยผลการดำเนินงานของบริษัทฯในปี 2558 รายได้รวมอยู่ที่ 1,034.91 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 63.77 ล้านบาท ขณะที่สินทรัพย์รวม ณ สิ้นปี 2558 อยู่ที่ 1,075.70 ล้านบาท หนี้สินรวม 800.57 ล้านบาท ส่วนของผู้ถือหุ้น 275.12 ล้านบาท ขณะที่งวดไตรมาส 1/2559 บริษัทฯมีรายได้รวม 298.14 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 39.01 ล้านบาท
นอกจากนี้อนาคตก็มีแนวโน้มเติบโตสูงจากการลงทุนขยายกิจการก่อสร้างตึกใหม่ 9 ชั้น รองรับผู้ป่วยเงินสด รวมทั้งการเพิ่มศักยภาพของศูนย์การให้บริการทางการแพทย์ครอบคลุมมากขึ้น