ปตท. ลงนามในสัญญาซื้อหุ้นทีพีไอ จำนวนร้อยละ 31.5

พุธ ๐๑ มิถุนายน ๒๐๐๕ ๑๑:๒๙
กรุงเทพฯ--1 มิ.ย.--ปตท.
บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) (ปตท.) กองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ (กบข.) ธนาคารออมสิน และกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (วายุภักษ์) และสถาบันอื่นๆ ได้บรรลุข้อตกลง และเข้าร่วมลงนามในสัญญาซื้อขายหุ้นสามัญของบริษัท อุตสาหกรรมปิโตรเคมีกัลไทย จำกัด (มหาชน) (ทีพีไอ) กับบริษัททีพีไอ ในฐานะผู้ออกหลักทรัพย์ และ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้รักษาหลักทรัพย์ ที่มีอำนาจกระทำการแทนผู้ถือหุ้นที่เสนอขายหุ้นทีพีไอเดิม ในการเข้าร่วมลงทุนและซื้อหุ้นสามัญทีพีไอ ที่ราคา 3.30 บาทต่อหุ้น จำนวน 17,550 ล้านหุ้น เทียบเท่ากับร้อยละ 90 ของหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัททีพีไอภายหลังจากการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ ซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของกระทรวงการคลังในฐานะผู้ได้รับมอบอำนาจจากศาลล้มละลายกลางภายใต้แผนฟื้นฟูกิจการของกลุ่มบริษัททีพีไอ
ภายใต้สัญญาซื้อขายหุ้นดังกล่าว ปตท. ตกลงที่จะเข้าร่วมถือหุ้นทีพีไอจำนวนร้อยละ 31.5 ของหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัททีพีไอภายหลังจากการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ โดยซื้อหุ้นจำนวน 6,142.5 ล้านหุ้น คิดเป็นมูลค่าเท่ากับ 20,270 ล้านบาท (หรือ 520 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) นอกจากนี้ผู้ร่วมลงทุนหลักอื่นๆ ซึ่งรวมถึง กบข. ธนาคารออมสิน และวายุภักษ์ ตกลงที่จะเข้าร่วมลงทุนกับ ปตท. โดยแต่ละรายจะเข้าถือหุ้นร้อยละ 10 ของหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัททีพีไอภายหลังจากการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ และเข้าร่วมลงนามในสัญญาระหว่างผู้ถือหุ้นกับ ปตท. เพื่อสนับสนุน ปตท. ให้สามารถเข้าบริหารจัดการกลุ่มบริษัททีพีไอได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้ ปตท. และผู้ร่วมลงทุนหลักดังกล่าวจะถือครองหุ้นทีพีไอรวมกันเท่ากับร้อยละ 61.5 ของหุ้นทั้งหมดที่จดทะเบียนและเรียกชำระแล้วของบริษัททีพีไอภายหลังจากการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ โดย ปตท. จะถือครองหุ้นทีพีไอในระยะเวลาไม่ต่ำกว่า 24 เดือนตามเจตนารมณ์ที่ต้องการลงทุนระยะยาวในทีพีไอ
ตามแผนการฟื้นฟูกิจการของกลุ่มบริษัททีพีไอ การซื้อขายหุ้นต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในหรือก่อนวันที่ 4 พฤศจิกายน 2548 โดยรายได้ทั้งหมดจากการจำหน่ายหุ้นทีพีไอจำนวนประมาณ 57,915 ล้านบาท (หรือประมาณ 1,448 ล้านเหรียญสหรัฐอเมริกา) ที่ราคาหุ้นละ 3.30 บาท จะนำไปชำระหนี้ของทีพีไอที่อยู่ภายใต้แผนการปรับโครงสร้างหนี้
นายประเสริฐ บุญสัมพันธ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. เปิดเผยว่า “ปตท. และกลุ่มผู้ร่วมลงทุนหลักได้ร่วมดำเนินการตรวจสอบสถานะ และประเมินทรัพย์สินและหนี้สินของกลุ่มบริษัททีพีไอในรายละเอียด ทั้งทางด้านการดำเนินงาน แผนธุรกิจ และประมาณการทางการเงิน ตลอดระยะเวลา 4 เดือนที่ผ่านมา “ปตท. และผู้ร่วมลงทุนหลัก ค่อนข้างพอใจกับผลการตรวจสอบสถานะดังกล่าว ทั้งด้านพื้นฐานของการดำเนินงานของบริษัท ตลอดจนคุณภาพของสินทรัพย์ในกระบวนการผลิต”
กลุ่มบริษัททีพีไอ เป็นผู้ดำเนินกิจการปิโตรเคมีรายใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในประเทศไทย ซึ่งมีการดำเนินกิจการทั้งทางด้านโรงกลั่นน้ำมัน และปิโตรเคมีทั้งต้นน้ำและปลายน้ำ (Upstream and Downstream) ซึ่งทีพีไอ และบริษัทย่อยได้เข้าสู่กระบวนการฟื้นฟูกิจการตั้งแต่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจในประเทศตั้งแต่ พ.ศ. 2540 ซึ่งคาดว่าปัญหาของทีพีไอจะสามารถได้รับการแก้ไขภายหลังการซื้อขายหุ้นครั้งนี้แล้วเสร็จในระดับหนึ่ง
กรรมการผู้จัดการใหญ่ ปตท. กล่าวเสริมว่า “เป้าหมายหลักของ ปตท. คือเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้แก่การดำเนินกิจการของกลุ่มบริษัททีพีไอ ภายหลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ โดยการปรับปรุงสินทรัพย์ในกระบวนการผลิต เพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ และสร้างมูลค่าจากทรัพย์สินโดยใช้ศักยภาพของทรัพย์สินต่างๆ ให้ได้อย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ปตท. เชื่อมั่นว่าจะสามารถเพิ่มมูลค่าให้แก่ทีพีไอจากความเชี่ยวชาญในธุรกิจ เช่น การวางแผนยุทธศาสตร์ การวางแผนการผลิตที่เหมาะสม (Optimization) การจัดการความเสี่ยง เป็นต้น ตลอดจนจากศักยภาพร่วม หรือ Synergies จากการดำเนินธุรกิจในอุตสาหกรรมเดียวกัน เช่น การจัดหาน้ำมันดิบ และวัตถุดิบในการผลิต การวางแผนและการดำเนินการตลาด และการซื้อขายผลิตภัณฑ์น้ำมัน และปิโตรเคมี โดย ปตท. จะเข้าไปรับบทบาทในการบริหารจัดการธุรกิจของกลุ่มบริษัททีพีไอ เพื่อจัดการให้ทีพีไอ และบริษัทย่อยมีการดำเนินการอย่างราบรื่น และมีประสิทธิภาพภายหลังออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ และสามารถแข่งขันกับผู้ประกอบการรายอื่นๆ โดยรักษามาตรฐานบรรษัทภิบาล และสร้างมูลค่าให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้ ปตท. เชื่อมั่นว่า ปตท. และทีพีไอ สามารถเพิ่มมูลค่าให้กันและกัน และจะเป็นพันธมิตรธุรกิจต่อไปในอนาคต”
ทั้งนี้ โปรดศึกษาจากคำถามเกี่ยวกับข้อมูลนักลงทุนของ ปตท. ที่น่าสนใจ (Frequently Asked Questions: FAQs) ที่จัดเตรียมอยู่ในเวบไซต์ของ ปตท. และหากมีคำถามหรือข้อสงสัยเพิ่มเติม สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้จาก ฝ่ายตลาดทุนและนักลงทุนสัมพันธ์ ที่โทรศัพท์หมายเลข 02 537- 2787-8
ฝ่ายประชาสัมพันธ์ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน)--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๕ เม.ย. Electronic Nose นวัตกรรมตรวจวัดกลิ่น! เพื่อสิ่งแวดล้อมที่ดี กรมอนามัย ร่วม MOU กรมควบคุมมลพิษ และ 4 หน่วยงานรัฐ - เอกชน
๒๕ เม.ย. ITEL ประชุมผู้ถือหุ้นประจำปี 68 ไฟเขียวอนุมัติแจกวอร์แรนต์ฟรี ลุยขยายธุรกิจ
๒๕ เม.ย. สวทช. โดย นาโนเทค เฟ้นหา 8 ผู้ประกอบการ ต่อยอดนวัตกรรมสมุนไพรสู่ผลิตภัณฑ์มูลค่าสูง
๒๕ เม.ย. คาเฟ่ แคนทารี ชวนมาลิ้มลองเมนูพิเศษประจำเดือนพฤษภาคม - มิถุนายน 2568 อร่อยครบเครื่องทั้งรีซอตโตต้มยำ เครป
๒๕ เม.ย. ซีพี ออลล์ x มูลนิธิชาวปักษ์ใต้ ร่วมสนับสนุนทุนการศึกษาเพื่ออาชีพแก่เยาวชนในจังหวัดภาคใต้
๒๕ เม.ย. ซีพีแรม ดีเดย์ เปิดเวที FINNOVA 2025 : ยกระดับความรู้สู่นวัตกรรมอาหาร ปักหมุดไทยศูนย์กลางนวัตกรรมอาหารโลก
๒๕ เม.ย. ดีไซน์เพื่อชีวิตที่ไม่หยุดนิ่ง: อาดิดาส ออริจินอลส์ เผยโฉม ADIZERO ARUKU พร้อมพื้นรองเท้าแบบโปรเกรสซีฟ
๒๕ เม.ย. พรีโม จับมือ Q-CHANG จัดทัพทีมช่างกว่า 2,000 ทีม! ยกระดับบริการซ่อมห้องชุด ตอกย้ำแนวคิด Primo Happy Maker
๒๕ เม.ย. ครั้งแรก กับ Dance (แดนซ์) Glossy Body Hair Perfume Mist น้ำหอม 2-in-1 พร้อมเปิดตัวพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ เก๋ไก๋ บุกใจกลางกรุง ชวนสาวๆ
๒๕ เม.ย. SCB CIO ชี้ 3 ปัจจัยกระทบตลาดการเงินฉุดสินทรัพย์ทั่วโลกผันผวน แนะระวังการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยง เพิ่มน้ำหนักหุ้นกู้ระยะสั้นคุณภาพดี และ