หลังจากมีการเปิดให้บริการเที่ยวบินระยะไกลของเจ็ทสตาร์ ด้วยเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลเนอร์ส แผนการลงทุนต่อไปจะมุ่งเน้นในเรื่องการพัฒนาประสบการณ์การใช้บริการของผู้โดยสาร และช่องทางการขายออนไลน์ต่างๆ
สายการบินเจ็ทสตาร์ในทวีปเอเชียสามารถทำกำไรเพิ่มขึ้น 85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในปีที่ผ่านมา ผลการดำเนินงานที่ดียิ่งขึ้นนี้ ยังรวมถึงผลกำไรงวดรวมทั้งปีเป็นครั้งแรกของเจ็ทสตาร์ เจแปน ซึ่งเพิ่งประกาศแผนเพิ่มจำนวนเครื่องบินจาก 20 เป็น 28 ลำให้ได้ภายใน 3 ปีข้างหน้าเป็นการต่อยอดความสำเร็จ นับตั้งแต่มีการเปิดตัวของสายการบินไปเมื่อปี 2555 และเป็นการรองรับการเติบโตทั้งตลาดในประเทศและต่างประเทศในอนาคตด้วย
ผลประกอบการของเจ็ทสตาร์ กรุ๊ป ได้แสดงถึงแรงสนับสนุนจากธุรกิจทั้งในประเทศและต่างประเทศที่โดดเด่นดังนี้ ธุรกิจการบินภายในประเทศของเจ็ทสตาร์ ทำกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษีเพิ่มขึ้นร้อยละ 62 เป็น 242 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ด้วยความได้เปรียบด้านแบรนด์และเครือข่ายสายการบินธุรกิจการบินระหว่างประเทศของเจ็ทสตาร์ มีผลกำไรที่แข็งแกร่ง ให้บริการด้วยเครื่อง โบอิ้ง 787-8 และมีอัตราเติบโตดีในตลาดเอเชียแปซิฟิกหลัก ๆอัตรากำไรจากการดำเนินงานที่เพิ่มขึ้น 5.8 จุด เป็นร้อยละ 12.4คุมการลดต้นทุนต่อหน่วยลงได้ร้อยละ 3ประสบความสำเร็จในการเปิดตัวบริการในประเทศนิวซีแลนด์ผลประกอบการของเจ็ทสตาร์ กรุ๊ปที่โดดเด่น เป็นผลลัพธ์มาจากผลการดำเนินยอดเยี่ยมของสายการบินเจ็ทสตาร์ในทวีปเอเชีย ที่สามารถทำกำไรได้เพื่มขึ้นกว่า 85 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เมื่อเทียบกับงวดปี2557/58 โดยเฉพาะสายการบินเจ็ทสตาร์ เอเชียในประเทศสิงคโปร์ที่มีการแข่งขันสูงมาก ได้เปิดตัวเส้นทางการบินใหม่ 4 เส้นทาง รวมถึงเที่ยวบินเช่าเหมาลำไปประเทศจีน และสามารถลดต้นทุนต่อหน่วยรวมลงได้
ทั้งนี้ เจ็ทสตาร์ยังให้ความสำคัญไปที่กลยุทธ์การให้บริการที่ยึดลูกค้าเป็นหลัก สนับสนุนลูกค้า ให้มั่นใจและใช้บริการของสายการบิน (Customer Advocacy) รวมถึงเพิ่มรายได้เสริม (Ancillary Revenue Growth) ต่าง ๆ พร้อมด้วยการลงทุนด้านการฝึกอบรมบริการใหม่ ๆ และระบบการขายทางดิจิตัล การปรับปรุงเว็บไซต์ jetstar.com โฉมใหม่ ยังช่วยให้ผู้โดยสารได้รับประสบการณ์การใช้บริการได้ดีมากยิ่งขึ้น จากการใช้ข้อมูลมาพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการต่าง ๆ