กระทรวงอุตสาหกรรมเดินหน้าดัน SMEs สู่ตลาดโลก ตามแผน 'Global Reach’ เปิดเวทีพัฒนา การออกแบบแฟชั่นเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักศึกษา ผลักดันไทยเป็นเมืองแฟชั่นระดับสากล

พฤหัส ๐๑ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๕:๔๘
กระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และสถาบันพัฒนาอุตสาหกรรมสิ่งทอ จัดงาน กิจกรรมการพัฒนาออกแบบแฟชั่นเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักศึกษา (Fashion Smart Start Up 2016 : Creative Designers Creation) ภายใต้โครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ SMEs สู่ตลาดโลก (Global Reach) เพื่อสร้างบุคลากรด้านการออกแบบตั้งแต่ระดับเยาวชนโดยเฉพาะกลุ่มนักศึกษา ให้มีความสามารถในการบูรณาการความรู้ในทุกประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สินค้าและการดำเนินธุรกิจแฟชั่น จนสามารถแข่งขันในระดับอาเซียน (ASEAN) ได้อย่างภาคภูมิ โดยมีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เป็นประธานเปิดตัวโครงการ

นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวถึงแนวนโยบายต้นทางของกิจกรรมดังกล่าวว่า "วัตถุประสงค์ของการจัดกิจกรรมการพัฒนาออกแบบแฟชั่นเชิงสร้างสรรค์สำหรับนักศึกษา (Fashion Smart Start Up 2016 : Creative Designers Creation) ภายใต้โครงการยกระดับผลิตภัณฑ์ SMEs สู่ตลาดโลก (Global Reach) นี้เพื่อร่วมส่งเสริมผลักดันบุคลากรในสายอุตสาหกรรมออกแบบ-แฟชั่นทั้งระบบ ให้เกิดการเพิ่มพูนความรู้ ทักษะ ตั้งแต่เรื่องของแนวโน้มการออกแบบ การคัดเลือกวัตถุดิบ การพัฒนาผลิตภัณฑ์เชิงสร้างสรรค์ ตลอดจนการสื่อสารทางการตลาดที่เหมาะสมกับกลุ่มเป้าหมายและการนำเสนอผลงานการออกแบบ เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการก้าวกระโดดไปสู่การสร้างผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มสูง สามารถแข่งขันในระดับสากลได้ (Global Reach) โดยกิจกรรมนี้เน้นไปที่นักเรียนนักศึกษาด้านออกแบบรวมถึงสถาบันการศึกษาทั่วประเทศ เพื่อการเริ่มสร้างทักษะและปรับแนวทางวิธีคิดอย่างเป็นระบบทั้งวงจรให้เกิดขึ้นตั้งแต่ในระดับเยาวชน ซึ่งต้นกล้าเหล่านี้จะกลายเป็นบุคลากรสำคัญในอุตสาหกรรมออกแบบแฟชั่นที่มีศักยภาพนำพาประเทศไปสู่เป้าหมายในอนาคตอันใกล้ ตามแนวนโยบายภาครัฐที่วางแผนและส่งเสริมให้อุตสาหกรรมไทยเติบโตกลายเป็นศูนย์กลางอุตสาหกรรมทุกประเภท (Hub of ASEAN Industrial) และด้วยขีดความสามารถของบุคลากรที่มีคุณภาพเราตั้งเป้าให้ไทยเป็นเมืองแฟชั่นของภูมิภาคนี้และในระดับสากลต่อไป"

ทั้งนี้ จากภาพรวมด้านเศรษฐกิจ อุตสาหกรรมแฟชั่น (สิ่งทอและเครื่องแต่งกาย เครื่องหนังและรองเท้า เครื่องประดับ และอุปกรณ์ตกแต่ง) เป็นอุตสาหกรรมที่มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจของไทยเป็นอย่างยิ่ง โดยเห็น

ได้จากมูลค่าการส่งออกและการบริโภคภายในประเทศที่สร้างรายได้และการจ้างแรงงานมากกว่า 2.2 ล้านคน มีมูลค่าการส่งออกในแต่ละปีไม่ต่ำกว่า 20,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือคิดเป็นร้อยละ 10 ของมูลค่าการส่งออกสินค้าอุตสาหกรรมทั้งหมด และกำลังซื้อในประเทศมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง มีมูลค่าการบริโภคในประเทศกว่า 300,000 ล้านบาทต่อปี รวมถึงสินค้าแฟชั่นไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับด้านการออกแบบและการผลิต เป็นแหล่งธุรกิจแฟชั่นระดับแนวหน้าของภูมิภาค รัฐบาลจึงวางแผนงานทั้งระยะสั้นและระยะยาวเพื่อรองรับการเติบโตที่จะเกิดขึ้น รวมถึงตั้งเป้าให้ไทยก้าวไปเป็นผู้นำของภูมิภาคในภาคอุตสาหกรรม ASEAN

นางอนงค์ ไพจิตรประภาภรณ์ รองอธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม ให้ข้อมูลโครงการฯนำร่องที่จะเกิดขึ้นในระยะเวลา 8 เดือนต่อจากนี้ "บุคลากรรุ่นใหม่ในภาคการศึกษาจำนวนหลายพันคนทั่วประเทศมีทุนเดิมในการเรียนรู้จากสถาบันอยู่แล้วเพียงแต่ขาดการวิเคราะห์ในภาพรวมเพื่อต่อยอดไอเดียสร้างสรรค์ ฉะนั้นสถาบันจะนำหลักสูตร เครื่องมือและความรู้ไปเติมเต็ม โดยตัวโครงการจะให้ความสำคัญในแนวคิดหลักเรื่อง "ทุนทางวัฒนธรรม" ที่ส่งเสริมให้นักออกแบบมองเห็นคุณค่าของท้องถิ่น วัฒนธรรมประจำภาค ที่เป็นอัตลักษณ์ของแต่ละพื้นที่ให้นำมาผสมผสานกับไอเดียสร้างสรรค์ และเทคโนโลยีการออกแบบและการผลิตเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่นภายใต้กลิ่นอายแห่งความภาคภูมิใจในวัฒนธรรมของตนให้คนทั่วโลกได้เห็น โดยแบ่งเป็นส่วนของการผลักดันเยาวชนกลุ่มที่มีความพร้อมด้านทักษะความรู้และความเข้าใจ ให้เกิดการเรียนรู้และพัฒนาในระดับที่สามารถสร้างงานได้จริงก่อน คัดจากจำนวน 50 เหลือ 10 คนเพื่อเข้ารับการอบรมในเชิงลึกเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ต้นแบบ และส่วนของโครงการถ่ายทอดองค์ความรู้ไปสู่นักศึกษาและสถาบันการศึกษาทั่วทั้ง 4 ภาค โดยทีมผู้เชี่ยวชาญและเครือข่ายที่ปรึกษาครอบคลุมการพัฒนาบุคลากรแฟชั่นครบทั้ง 4 อุตสาหกรรม คือสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่ม เครื่องหนังและรองเท้า เครื่องประดับ และของตกแต่ง"

"รูปแบบการดำเนินโครงการจะเป็นลักษณะบูรณาการร่วมกันกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และสถาบันการศึกษา สถาบันเครือข่ายของกระทรวงอุตสาหกรรม และสถาบันด้านออกแบบต่างๆ จึงมั่นใจได้ว่าภาคของเนื้อหาและภาคปฏิบัติจะเข้มข้นและได้เรียนรู้จากประสบการณ์จริง จนนักออกแบบรุ่นเยาวชนของเราสามารถพัฒนาและมีความพร้อมมากพอ ที่ในอนาคตจะเป็นกำลังสำคัญในการช่วยยกระดับอุตสาหกรรมแฟชั่นไทยให้กลายเป็นศูนย์กลางการออกแบบผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (Hub of ASEAN Design Industrial) ได้อย่างแน่นอน" นางอนงค์กล่าวปิดท้าย

สนใจข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ Call Center โทร 093-2636111 หรือ เฟสบุ๊กแฟนเพจ Fashion Smart Start Up 2016 หรือเข้าไปที่เว็บไซต์http://www.thaitextile.org

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version