ก.ส.ล.เผยแผนพัฒนาธุรกิจซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการซื้อขายไม่น้อยกว่า 650,000 ข้อตกลงในปี 2553

ศุกร์ ๒๑ มกราคม ๒๐๐๕ ๑๗:๒๘
กรุงเทพฯ--21 ม.ค.--ก.ส.ล.
เลขาธิการ ก.ส.ล.เปิดเผยผลการดำเนินงานที่ผ่านมา พร้อมแสดงความมั่นใจว่าตลาดจะมีสภาพคล่องมากขึ้น ตั้งเป้าเพิ่มปริมาณการซื้อขายไม่น้อยกว่า 650,000 ข้อตกลง และเพิ่มสินค้าที่ซื้อขายในตลาดไม่ต่ำกว่า 9 รายการในปี 2553 เตรียมเน้นการเผยแพร่ความรู้สู่เกษตรกร รวมทั้งสร้างพันธมิตรต่างประเทศเพื่อเพิ่มศักยภาพองค์กร
นายชัยพัฒน์ สหัสกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า (คณะกรรมการ ก.ส.ล.) เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานที่ผ่านมาว่า สำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล.ได้มีส่วนสำคัญในการจัดตั้งองค์กรตามพระราชบัญญัติการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้า พ.ศ.2542 โดยเฉพาะตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าแห่งประเทศไทย ที่เป็นศูนย์กลางการซื้อขาย รวมทั้งการเตรียมความพร้อมก่อนการเปิดซื้อขาย ซึ่งเป็นขั้นตอนที่สำคัญมาก ทั้งความพร้อมของตลาด ความพร้อมของผู้ประกอบธุรกิจ นักลงทุน และอื่นๆ ซึ่งได้ดำเนินการสำเร็จลุล่วง จนตลาดสามารถเปิดทำการซื้อขายครั้งแรก โดยซื้อขายยางแผ่นรมควันชั้น 3 ได้เมื่อวันที่ 28 พฤษภาคม 2547 และทำการซื้อขายข้าวขาว 5 เปอร์เซ็นต์เป็นรายการต่อมาได้ในวันที่ 26 สิงหาคม 2547
ทั้งนี้ นายชัยพัฒน์ยังได้แสดงความมั่นใจว่า ตลาดมีแนวโน้มที่จะเติบโตและมีสภาพคล่องมากขึ้น ซึ่งจะเห็นได้จากปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ทำการเปิดการซื้อขายเป็นต้นมา โดยเฉพาะในวันที่ 19 พฤศจิกายน 2547 เกิดการซื้อขายสูงสุดถึง 906 ข้อตกลง ซึ่งมากกว่าตัวเลขที่คาดหวังว่าจะทำได้ 500 ข้อตกลงในสิ้นปี แต่ก็ไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะขณะนี้ได้มีการวางแผนพัฒนาตลาดให้มีสภาพคล่องมากขึ้นแล้ว
"เราได้วางเป้าหมายเอาไว้ว่า ภายในปี 2553 เราจะต้องทำให้ตลาดมีปริมาณการซื้อขายไม่น้อยกว่า 650,000 ข้อตกลง มีสินค้าเกษตรที่เข้ามาซื้อขายไม่ต่ำกว่า 9 ชนิด" นายชัยพัฒน์กล่าว
นายชัยพัฒน์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่า เจตนารมณ์หลักของการจัดตั้งตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้าคือเพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับเสถียรภาพของราคาสินค้าเกษตรในระยะยาว ดังนั้น สำนักงานคณะกรรมการ ก.ส.ล. จึงได้วางแผนที่เน้นการเผยแพร่ความรู้ความเข้าใจให้แก่เกษตรกร รวมถึงสถาบันการเกษตร เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรได้รับข้อมูลการซื้อขายล่วงหน้า และสามารถเข้ามาใช้ประโยชน์จากตลาดในการวางแผนการผลิตและการตลาดได้ โดยทางสำนักงานมีโครงการสร้างผู้เผยแพร่ความรู้ด้านการซื้อขายสินค้าเกษตรล่วงหน้าประจำอำเภอ เพื่อถ่ายทอดความรู้ให้เกษตรกรในพื้นที่ ซึ่งมีเป้าหมายที่จะจัดให้มีผู้เผยแพร่ในอำเภอที่เป็นแหล่งผลิตสินค้าเกษตรสำคัญที่มีการซื้อขายในตลาดให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ในอีก 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ยังมีแผนงานที่จะสร้างเครือข่ายและส่งเสริมให้ตลาดเป็นที่ยอมรับในต่างประเทศ ด้วยการขยายเครือข่ายพันธมิตรกับตลาดซื้อขายล่วงหน้า และองค์กรกำกับดูแลในต่างประเทศ รวมทั้งการจัดประชุมสัมมนาทางวิชาการระดับนานาชาติ เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เทคโนโลยี และประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์ต่อการพัฒนาตลาด และกำกับดูแลตลาดให้มีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในระดับสากลยิ่งขึ้น นายชัยพัฒน์กล่าวทิ้งท้าย
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมติดต่อ
ฝ่ายประชาสัมพันธ์
โทร. 0-2685-3250 ต่อ 207
โทรสาร 0-2685-3259 หรือ
http://www.aftc.or.th--จบ--

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO