ดร.อุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) เปิดเผยว่า นายจัสติน วูด หัวหน้าภาคพื้นเอเชีย - แปซิฟิก แห่งเวิลด์ อีโคโนมิก ฟอรั่ม (World Economic Forum : WEF) องค์กรเอกชนไม่แสวงหากำไรที่มีสำนักงานใหญ่ที่เจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ได้เข้าพบหารือแนวทางความร่วมมือด้านการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของไทย พร้อมกับแจ้งให้ทราบว่า WEF wfhจัดอันดับความพร้อมด้านไอซีที (Network Readiness Index) ของประเทศไทยจากอันดับ 67 ขยับขึ้นไปเป็นอันดับ 62 สูงขึ้นถึง 5 อันดับ ส่งผลให้ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ของอาเซียน (สิงคโปร์อยู่ในอันดับที่ 1 และมาเลเซียอยู่ในอันดับที่ 31) ซึ่งการประเมิน ในการจัดอันดับได้คำนึงถึงปัจจัยอย่างรอบด้าน 10 มิติ ได้แก่ สภาพแวดล้อมทางการเมืองและการกำกับดูแล (Political and regulatory environment) มิติสภาพแวดล้อมทางธุรกิจและนวัตกรรม (Business and innovation environment) โครงสร้างพื้นฐาน (Infrastructure) ปัจจัยด้านความสามารถ (Skills) การใช้งานของประชาชน (Individual usage) การใช้งานในภาคธุรกิจ (Business usage) การใช้งานของรัฐบาล (Government usage) ผลกระทบทางเศรษฐกิจ (Economic impact) และผลกระทบทางสังคม (Social impacts)
การจัดอันดับของ WEF สอดคล้องและเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับการจัดอันดับขององค์การสหประชาชาติ (UN) และมหาวิทยาลัยวาเซดะ โดย UN ขยับประเทศไทยดีขึ้นถึง 25 อันดับ ซึ่งเป็นผลจากการดำเนินการพัฒนาด้านรัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์อย่างเป็นระบบ ทำให้ประเทศไทยได้อันดับที่ 77 จาก 193 ประเทศ ขยับดีขึ้นถึง 25 อันดับ จากที่ปี 2014 ได้อันดับ 102 จาก 193 ประเทศ ในขณะที่มหาวิทยาลัยวาเซดะ ซึ่งเป็นองค์กรชั้นนำที่จัดอันดับความพร้อมการพัฒนารัฐบาลอิเล็กทรอนิกส์ประจำปี 2559 หรือ Waseda-IAC international e-Government ranking 2016 โดยร่วมมือกับองค์กรวิชาชีพทางด้านผู้บริหารด้านสารสนเทศ (Chief Information Officer – CIO) ประเทศไทยอยู่อันดับที่ 21 ดีขึ้นจากปีที่แล้ว 1 อันดับ โดยปีนี้มีประเทศที่เข้าร่วมการสำรวจทั้งหมด 65 ประเทศ
"สำหรับแนวทางความร่วมมือกันในอนาคตนั้น WEF ทราบว่าขณะนี้รัฐบาลไทยได้ดำเนินการผลักดันนโยบายเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัล (Digital Economy and Society) อย่างจริงจัง ซึ่งเป็นเรื่องที่ WEF ให้ความสำคัญสูงสุดด้วยเช่นกันเนื่องจากมีบทบาทต่อการพัฒนาในทุกด้านของโลก จึงพร้อมให้ความร่วมมือกับรัฐบาลและภาคเอกชนไทยอย่างเต็มที่ โดย WEF ได้ตกลงที่จะส่งทีมที่ดูแลด้านเศรษฐกิจดิจิทัลโดยเฉพาะ เพื่อเสนอกรอบความร่วมมือและการดำเนินงานในอนาคตร่วมกัน ทั้งนี้ กระทรวงฯ ได้มอบให้ ดร.พันธ์ศักดิ์ ศิริรัชตพงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำประทรวงฯ และ ดร.สุธรรม อยู่ในธรรม ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการฯ เป็นผู้ดูแลความร่วมมือในรายละเอียด เพื่อให้เกิดผลต่อการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอย่างเป็นรูปธรรม และเกิดประโยชน์อย่างเต็มศักยภาพของประเทศไทย"
ดร.อุตตม กล่าวในที่สุด