สุโขทัยรวมพลังขานรับเครือข่ายฯ ผนึก 36 องค์กร รุกเดินหน้าขับเคลื่อน “อย่าให้ใครว่าไทย”

จันทร์ ๐๕ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๖:๒๘
เมื่อวันที่ 23 สิงหาคมที่ผ่านมา นางวรรณวิมล ศุภประเสริฐ เลขาธิการมูลนิธิมั่นพัฒนา เปิดเผยว่า มูลนิธิมั่นพัฒนา ในนามเครือข่ายอนาคตไทย ได้ร่วมพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ ในการขับเคลื่อนภารกิจเครือข่ายอนาคตไทยร่วมกัน ระหว่าง มูลนิธิมั่นพัฒนา ในนามเครือข่ายอนาคตไทย กับ 36 องค์กรเครือข่ายอนาคตไทย จ.สุโขทัย นำโดย นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย พร้อม นางพรพรรณ ดิลกวัฒนา ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.สุโขทัย องค์กรแกนนำผู้ขับเคลื่อนโครงการ "อย่าให้ใครว่าไทย" ใน จ.สุโขทัย รวมถึง นายพิเชฐ ไทยกล้า นายกเทศมนตรีเมืองสุโขทัยธานี และ พลตรีทรงวุฒิ จิตตานนท์ ผู้บัญชาการกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองบัญชาการช่วยรบที่ 3 ณ หอประชุมนพมาศ โรงเรียนอุดมดรุณี จ.สุโขทัย เพื่อร่วมรณรงค์ให้คนไทยลด ละ เลิก พฤติกรรมเชิงลบ 4 อย่าง ได้แก่ ขี้โกง มักง่าย ไร้สติ ฟุ้งเฟ้อ โดยนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำรงชีวิต พร้อมสร้างภูมิคุ้มกันใน 4 ด้าน คือ เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม ทั้งนี้ ตั้งเป้าให้ จ.สุโขทัย เป็นจังหวัดตัวอย่างและต้นแบบในการขยายผลให้จังหวัดอื่นๆ ในเขตภูมิภาคใกล้เคียง

โดย นางวรรณวิมล ศุภประเสริฐ เลขาธิการมูลนิธิมั่นพัฒนา กล่าวว่า "ที่ผ่านมาเครือข่ายอนาคตไทยเน้นสร้างกระบวนการเรียนรู้ในภูมิภาคต่างๆ ทั่วประเทศ โดยเดินหน้าขับเคลื่อนรุกหนักในจังหวัดพื้นที่ยุทธศาสตร์ต่างๆ ประเดิมที่ จ.ขอนแก่น เพื่อสร้างโมเดลต้นแบบในการขยายผลในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนภาคใต้ได้ จ.สงขลา เป็นพื้นที่นำร่อง ซึ่งล้วนประสบความสำเร็จด้วยดี สำหรับวันนี้ยินดีและเป็นรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่ง ที่เครือข่ายอนาคตไทยได้รับการตอบรับและความร่วมมือจากองค์กรต่างๆ ใน จ.สุโขทัย ถึง 36 องค์กร ที่รวมพลังกันเป็นเครือข่ายอนาคตไทย จ.สุโขทัย เพราะที่นี่นับเป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญที่สามารถขยายผลไปในจังหวัดอื่นๆ ได้ในอนาคต การลงนามจึงถือเป็นจุดเริ่มต้นที่เราจะทำความดีร่วมกัน กระตุ้นให้คนไทยปรับเปลี่ยนทัศนคติลดละเลิกพฤติกรรมเชิงลบ โดยเฉพาะกลุ่มเยาวชน นักเรียนและนักศึกษา ซึ่งเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่จะเป็นกำลังสำคัญของประเทศชาติต่อไป โดยคาดหวังว่าจะดำเนินการอย่างต่อเนื่อง และมีการประเมินผลให้เห็นในรูปธรรม เพื่อให้จังหวัดอื่นๆ ในภาคเหนือใช้เป็นแหล่งเรียนรู้ต่อไป"

ขณะที่ พลเอกจิระศักดิ์ วัฒนาวงศ์ กรรมการมูลนิธิมั่นพัฒนา กล่าวว่า "มูลนิธิมั่นพัฒนา ในฐานะผู้บริหารจัดการเครือข่าย ตระหนักดีว่าการขับเคลื่อนโครงการโดยภาคีระดับประเทศจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องมีความสัมพันธ์อันดีและเน้นสร้างกระบวนการเรียนรู้ในแต่ละภูมิภาคและ จ.สุโขทัย ก็มีเจตนารมณ์เดียวกันจึงนำมาสู่การร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงร่วมกันในครั้งนี้ ซึ่งเป็นนิมิตหมายที่ดีในการที่จะทำโครงการดีๆ ร่วมกันต่อจากนี้ไปและในอนาคต อันจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันให้กับคนไทยและประเทศไทยเพื่อสังคมที่ยั่งยืน ซึ่งปัจจุบันมีภาคีเข้าร่วมเครือข่ายอนาคตไทยแล้วทั้งสิ้น 109 องค์กร โดยมี จ.สุโขทัย เป็นภาคีล่าสุด"

ด้าน นายปิติ แก้วสลับสี ผู้ว่าราชการจังหวัดสุโขทัย กล่าวว่า "นับเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่องค์กรต่างๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนตลอดจนภาคประชาคมรวม 36 องค์กรให้การสนับสนุนและมองเห็นความสำคัญ ส่วนตัวเชื่อว่าทุกองค์กรพร้อมขับเคลื่อนการรณรงค์ในมิติต่างๆ เพื่อสร้างสำนึก สร้างทัศนคติซึ่งเป็นพื้นฐานให้เกิดพฤติกรรมที่ดีร่วมกัน ทั้งนี้ จ.สุโขทัย พร้อมเป็นตัวอย่างและต้นแบบในการขยายผลให้จังหวัดอื่นๆ ในเขตภูมิภาคใกล้เคียง โดยจะเริ่มต้นรณรงค์ "อย่าให้ใครว่าคนสุโขทัย ไร้วินัย" ภายในจังหวัด เพื่อส่งเสริมให้ทุกคนตระหนักและร่วมกันรณรงค์ ไปในทิศทางเดียวกัน หลังจากนั้น ภาคีเครือข่ายทั้งหมดจะมีกิจกรรมในแต่ละมิติที่สอดคล้องกับพันธกิจหลักองค์กรตนเองต่อเนื่องต่อไป และคาดว่าจากนี้ไปอีก 3 ปี จะมีกิจกรรมต่างๆ ออกมาให้เห็นได้อย่างเป็นรูปธรรม"

ท้ายสุด นางพรพรรณ ดิลกวัฒนา ประธานชมรมคนรักในหลวง จ.สุโขทัย องค์กรแกนนำผู้ขับเคลื่อนโครงการ "อย่าให้ใครว่าไทย" ใน จ.สุโขทัย กล่าวว่า "ชมรมคนรักในหลวงได้รับมอบหมายจากทางท่านผู้ว่าฯ ให้เป็นแกนนำเชิญชวนภาคีเครือข่ายภายใน จ.สุโขทัย เข้าร่วมและวางแผน Roadmap ทำโครงการร่วมกัน โดยมีเวทีเสวนาและเวิร์กช็อป "คิดดี มี...ตังค์" เป็นกิจกรรม Kick off ในเรื่อง "วินัยทางการเงิน" กับเยาวชนในจังหวัด ทั้งนี้ เชื่อมั่นว่าศักยภาพและความพร้อมของจังหวัด จะสามารถสร้างพลังในการขับเคลื่อนและขยายผลออกไปในวงกว้าง"

สำหรับ 36 องค์กรเครือข่ายอนาคตไทย จ.สุโขทัย ประกอบด้วย สำนักงานจังหวัดสุโขทัย, ชมรมคนรักในหลวง จ.สุโขทัย, เทศบาลเมืองสุโขทัยธานี, สถาบันการพลศึกษาวิทยาเขตสุโขทัย, ศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดสุโขทัย, กองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย กองบัญชาการช่วยรบที่ 3, สถานีตำรวจภูธรเมืองสุโขทัย, กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายใน จังหวัดสุโขทัย (ฝ่ายทหาร), เทศบาลตำบลเมืองเก่า, หอการค้าจังหวัดสุโขทัย, อุตสาหกรรมจังหวัดสุโขทัย, สมาคมพ่อค้าจังหวัดสุโขทัย, ตำรวจสันติบาลจังหวัดสุโขทัย,สำนักงานประชาสัมพันธ์จังหวัดสุโขทัย, ชมรมธนาคารจังหวัดสุโขทัย, สภาวัฒนธรรมจังหวัดสุโขทัย และสมาคมสื่อสารมวลชนสุโขทัย ฯลฯ ซึ่งองค์กรเครือข่ายทั้งหมดจะมีกิจกรรมอย่างต่อเนื่องต่อไป

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๐๘:๒๕ หอการค้าไทย-อิตาเลียน จัดพิธีมอบรางวัลอันทรงเกียรติ Ospitalit? Italiana ครั้งที่ 11 เชิดชูร้านอาหารอิตาเลียนทั่วไทยที่สะท้อนวัฒนธรรมอิตาเลียนอันโดดเด่นและเป็นเลิศ
๐๘:๒๐ เปิดประตูสู่การเรียนรู้ระดับสากล! ม.ศรีปทุม MOU กับ WCC Aeronautical and Technological College ฟิลิปปินส์
๐๘:๔๑ DEXON คว้างานใหญ่ NDT จากกลุ่ม ปตท.สผ. มูลค่ากว่า 300 ล้านบาท
๐๘:๔๔ ระบบขนส่งที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมแนวทางสู่ความเป็นกลางทางคาร์บอนของมหาวิทยาลัยพะเยาอย่างยั่งยืน
๐๘:๕๓ วัน แบงค็อก จับมือสถาบันดนตรีกัลยาณิวัฒนา จัดเวิร์คช็อปร่วมกับศิลปินระดับโลก คาลัม สกอตต์ และ ลอเรน ออลเรด
๐๘:๑๔ PDPC เตือนบริษัทเอกชน และหน่วยงานภาครัฐ ไม่ให้ละเมิดข้อมูลส่วนบุคคลอย่างเคร่งครัด พร้อมเปิดช่องทางร้องเรียนเพื่อปกป้องสิทธิของประชาชน
๐๘:๑๐ สถาบันปิดทองหลังพระฯ บูรณาการร่วมจังหวัดศรีสะเกษผลักดันซ่อมแซมและเสริมศักยภาพแหล่งน้ำในชุมชน เพิ่มประสิทธิภาพผลิตสินค้าเกษตรและสร้างรายได้ให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
๐๘:๑๗ โรงพยาบาลพระรามเก้า คว้ารางวัลเกียรติยศ SET AWARDS 2024 ประเภท Highly Commended Sustainability Awards
๐๘:๑๕ Bangkok Art Auction จัดงานประมูลศิลปะส่งท้ายปี The Iconic Treasure 2024 ผลงานกว่า 100 ชิ้น พร้อมชวนชมนิทรรศการก่อนการประมูล ตั้งแต่วันนี้ ถึง 10 พ.ย. 67 ณ
๐๘:๕๐ บินตรงจากแดนปลาดิบเสิร์ฟความอร่อยติดดาวกับเชฟมิชลินสตาร์ 1 ดาว ณ ห้องอาหารอูโนมาส ชั้น 54 โรงแรมเซ็นทาราแกรนด์ฯ