"ในส่วนของโครงการที่เริ่มต้นมาจากความสัมพันธ์ของโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ซึ่งทางคณะผู้บริหารก็ได้มีความสัมพันธ์ที่ดีกับประเทศจีนอยู่แล้วเราได้มีการไปศึกษาดูงานในแต่ละสถาบันของประเทศจีนค่อนข้างเยอะ พอดีมีโอกาสได้คุยกับโรงเรียน New Century International Collage ซึ่งเป็นโรงเรียนนานาชาติในประเทศจีนที่มีโครงการฟุตบอล หลังจากนั้นก็ได้มีการพัฒนาแลกเปลี่ยนความคิดกันจนกระทั่ง ตัดสินใจที่จะมีโครงการการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมในครั้งนี้เกิดขึ้น" คุณมิตติ ติยะไพรัช ประธานสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด กล่าวถึงที่มาที่ไปของโครงการโดยก่อนหน้านี้สโมสรเชียงราย ยูไนเต็ด ได้จัดโครงการเชียงรายยูไนเต็ดอะคาเดมี่ต่อเนื่องมาปีนี้เป็นปีที่ 4 ปีแล้ว ซึ่งตลอดมาก็มีเยาวชนจากในจังหวัดเชียงรายและพื้นที่อื่นๆ เข้ามาอบรมทักษะฟุตบอลกันมากมาย ปีละกว่า100-120 คน และที่ผ่านมาก็มีเยาวชนที่สามารถทะลุขึ้นมาเล่นในทีมชุดใหญ่ได้แล้วหลายคนอีกด้วย แต่สำหรับในปีนี้มีความพิเศษกว่าปีก่อนๆ ทางสโมสรเชียงราย ยูไนเต็ดได้สนับสนุนผู้ฝึกสอนทั้งจากทีมชุดใหญ่และทีมอะคาเดมี่ของสโมสร มาให้ความรู้เรื่องทักษะการเล่นฟุตบอลแก่เยาวชนทั้งสองโรงเรียนอย่างเต็มที่
จาง เฉิน เยาวชนอายุ 16 ปี จากประเทศจีน เล่าประสบการณ์ความประทับใจที่ได้ร่วมโครงการในครั้งนี้ว่า "ตัวผมเองชอบกีฬาฟุตบอลมาก เล่นมาตั้งแต่ยังเด็ก มาที่นี่ได้เรียนรู้วิธีการเล่นฟุตบอล เทคนิค การวอร์มร่างกาย ได้ความแข็งแรงมากขึ้น มีจิตสาธารณะ ความฝันของผมคือ อยากเป็นนักฟุตบอล มาที่นี่นักฟุตบอลเก่งทุกคนเลย ผมก็พยายามซึมซับเพื่อจะเอาไปพัฒนาตัวเอง ถ้ามีโอกาสมาอีกหวังว่าจะได้มาแข่งกับนักกีฬาไทย หรือถ้าเป็นไปได้ก็อยากมาเป็นนักกีฬาฟุตบอลที่ประเทศไทยด้วย"
นอกจากนี้ ณฤดล งามดี เยาวชนไทยอายุ 15 ปี จากโรงเรียนองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ก็เล่าเกี่ยวกับประสบการณ์ที่ได้รับกลับมาครั้งนี้อย่างน่าประทับใจเพิ่มเติมอีก "ผมเริ่มชอบฟุตบอลตั้งแต่ 8 ขวบ มาคัดตัวที่อะคาเดมี่ของสโมสรชียงรายยูไนเต็ดตอนปี พ.ศ. 2554 อยู่มา 3-4 ปีแล้ว พอได้เข้ามาผมได้ฝึกทักษะเพิ่มเติมที่ไม่เคยรู้มาก่อน ได้รู้จักโค้ชดังๆ หลายท่าน ได้สัมผัสกับนักเตะอาชีพ เข้ามาอยู่ที่นี่อยู่หอพัก กิจวัตรในแต่ละวันก็ไปโรงเรียน เลิกเรียนมาก็มาซ้อมฟุตบอลกับโค้ช โค้ชจะสอนเทคนิคที่เราต้องใช้ในการแข่งขันให้เราชำนาญขึ้น เช่น สอนแปลบอล ยิงบอล ชูบอล พาสซิ่ง สมอลไซต์ พอที่สโมสรเชียงรายจัดการแลกเปลี่ยนนักเรียน ก็ได้เพื่อนใหม่ ได้แลกเปลี่ยนวัฒนธรรม ภาษา อยากชวนเพื่อนๆ ให้มาเตะฟุตบอล เพราะกีฬาฟุตบอลให้สุขภาพที่ดีต่อร่างกาย ซึ่งความฝันของผมคือยากเป็นนักเตะมืออาชีพให้กับสโมสรเชียงรายยูไนเต็ด"
จากฟีดแบ็กของน้องๆ เยาวชนของทั้งสองโรงเรียนก็พิสูจน์ได้อย่างดีว่าโครงการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรมครั้งนี้ประสบความสำเร็จอย่างมาก ซึ่งเชื่อว่าเมล็ดพันธุ์ที่เรียกว่านักฟุตบอลไทย ซึ่งผ่านบ่มเพาะในโครงการนี้ จะเติบใหญ่เป็นต้นไม้ที่แข็งแรงและพัฒนาวงการลูกหนังของไทยให้เดินหน้าไปได้อย่างแน่นอน