นายสุรพล คุณานันทกุล รองผู้อำนวยการ บริษัท สยามสตีลอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) (SIAM) เปิดเผยว่า บริษัทฯ เริ่มทยอยรับรู้รายได้จากธุรกิจห้องน้ำสำเร็จรูปพร้อมติดตั้งที่ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ 2 ราย ประกอบด้วย บริษัท เอพี (ไทยแลนด์) จำกัด (มหาชน) โครงการ Aspire เอราวัณ B สุขุมวิท ,โครงการ Aspire ราชพฤกษ์ และบริษัท ไซมิส แอสเสท จำกัด โครงการ Siamese Blossom Condo รวมกว่า 3,000 ยูนิต
"ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทฯได้แตกไลน์ธุรกิจด้วยการหันมาทำห้องน้ำสำเร็จรูป โดยช่วงแรกเน้นที่ลูกค้าโครงการคอนโดมิเนียม โดยตั้งเป้าหมายรายได้จากห้องน้ำสำเร็จรูปไว้ที่ 200-300 ล้านบาทต่อปี" นายสุรพล กล่าว
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯพัฒนาห้องน้ำสำเร็จรูปมาเพื่อตลาดเมืองไทย และเชื่อว่าจะสามารถเปลี่ยนวิวัฒนาการ การก่อสร้างคอนโดมิเนียมของตลาดเมืองไทยได้ ขณะเดียวกันห้องน้ำสำเร็จรูปยังช่วยลดปัญหาจุดคอขวดของการก่อสร้างคอนโดมิเนียมทั้งระบบ จากเดิมที่การก่อสร้างห้องน้ำจะต้องใช้แรงงานในการปูกระเบื้องทีละแผ่นก็จะเปลี่ยนมาเป็นสามารถนำห้องน้ำสำเร็จรูปไปติดตั้งได้เลย ดังนั้นห้องน้ำสำเร็จรูปของบริษัทฯจึงได้รับการตอบรับที่ดีในตลาดไทย เนื่องจากช่วยร่นระยะเวลาการก่อสร้างให้เร็วขึ้น
อนึ่ง SIAM เป็นผู้ผลิตเฟอร์นิเจอร์ภายใต้เครื่องหมายการค้า "LUCKY" , "KINGDOM", "OKAMURA","CHITOSE" และ "PILOT" รวมทั้งผลิตและจำหน่ายอาคารสำเร็จรูปอเนกประสงค์ "LUCKY Hi-Tech Building System" และให้บริการรับตกแต่งภายในสถานที่ต่างๆ ทั้งอาคารสำนักงาน โรงแรม สถานศึกษา สถาบันการเงิน โรงพยาบาลและสนามบิน เป็นต้น และขณะนี้เริ่มรุกเข้าสู่ธุรกิจพลังงานทดแทนโดยในช่วงต้นปีที่ผ่านมาคณะกรรมการได้มีมติอนุมัติให้ บริษัท สยามอินเตอร์เนชั่นแนลเอนเนอร์จี จำกัด (บริษัทย่อยของ SIAM) เข้าซื้อหุ้นสามัญร้อยละ 100 ของทุนจดทะเบียนของบริษัท บางพระกรีนเอนเนอร์จี จำกัด ("BGE") ซึ่ง BGE เป็นบริษัท Holding Company และมีเงินลงทุนใน 1 บริษัท คือบริษัท Rich Solar Energy Godo Kaisha("RSE") ประเทศญี่ปุ่น ในสัดส่วนร้อยละ 97 ซึ่งลงทุนในโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ จำนวน 1 โครงการ ได้แก่ โครงการ Miyagi Solar Project ("โครงการ Miyagi") ขนาดกำลังติดตั้ง 15.17 เมกะวัตต์