นายวิชิต พยุหนาวีชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ซัมมิท แคปปิตอล ลีสซิ่ง จำกัดเปิดเผยว่า ภาพรวมตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลปี 2558 ที่ผ่านมาขยายตัวในกรอบที่จำกัดท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจไทยที่ฟื้นตัวอย่างช้าๆ จากแรงกดดันของการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของประเทศคู่ค้าที่สำคัญเช่น จีน ส่งผลให้ภาคการส่งออกหดตัวประกอบกับภาวะราคาสินค้าเกษตรตกต่ำและสถานการณ์ภัยแล้งสร้างแรงกดดันต่อรายได้ของลูกค้ารายย่อยระดับกลางลงล่าง ซึ่งเป็นฐานลูกค้าหลักของผลิตภัณฑ์สินเชื่อส่วนบุคคลโดยการเติบโตของสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งจำนวนบัญชีและยอดคงค้างสินเชื่อในปีที่ผ่านมาได้แรงหนุนจากการขยายตัวของสินเชื่อในกลุ่มนอนแบงก์เป็นหลักประกอบกับการเข้ามาแข่งขันในตลาดของผู้เล่นรายใหม่ ในขณะที่สินเชื่อส่วนบุคคลของธนาคารพาณิชย์ชะลอตัวลงอย่างเห็นได้ชัดจากการดำเนินนโยบายสินเชื่ออย่างระมัดระวังต่อเนื่อง
ข้อมูล ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2558 พบว่ายอดคงค้างของสินเชื่อส่วนบุคคลทั้งระบบอยู่ที่ระดับ3.25 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3.8 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนแบ่งเป็นยอดคงค้างของสินเชื่อในกลุ่มนอนแบงก์จำนวน 1.67 แสนล้านบาทเพิ่มขึ้นร้อยละ 9.6 จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า และยอดคงค้างของสินเชื่อในกลุ่มธนาคารพาณิชย์จำนวน 1.58 แสนล้านบาทลดลงร้อยละ 1.7 ส่งผลให้กลุ่มนอนแบงก์สามารถพลิกกลับมาครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดในตลาดสินเชื่อส่วนบุคคลเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี2554
"ด้วยมั่นใจว่าตลาดสินเชื่อบุคคลยังคงมีโอกาสเติบโต เนื่องจากความต้องการยังมีอยู่ต่อเนื่อง ซัมมิท แคปปิตอล บริษัทในเครือซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่นจึงได้เปิดตัวสินเชื่อบุคคลซัมมิท แคปปิตอล เพื่อเพิ่มทางเลือกใหม่ให้กับผู้บริโภคและขยายฐานลูกค้าให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น ซึ่งได้นำร่องเปิดตัวสู่ตลาดสินเชื่อบุคคลอย่างไม่เป็นทางการไปเมื่อกลางเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากลูกค้าเป็นอย่างมาก โดยมียอดปล่อยสินเชื่อไปแล้วกว่า 100 ล้านบาท" นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติม
ทั้งนี้ จากการศึกษาข้อมูลในตลาด ทำให้บริษัทฯ สนใจกลุ่มลูกค้าที่มีระดับรายได้ค่อนข้างสูง หรือตั้งแต่ 30,000 บาทขึ้นไป โดยมีพื้นที่อยู่อาศัยหรือทำงานในกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบ มีอายุเฉลี่ยประมาณ 25 ปีขึ้นไป ทั้งนี้ เนื่องจากวัย 25 ปีเป็นต้นไปเป็นวัยที่คำนึงถึงอนาคต ต้องการสร้างฐานะ สร้างฝันของตัวเองให้เป็นจริง เช่นการเดินทางท่องเที่ยว วางแผนเรื่องที่อยู่อาศัย หรือวางแผนการแต่งงาน มีครอบครัว เป็นต้น และเป็นกลุ่มที่ผ่านการทำงานมามากกว่า 1 ปี ทำให้มีประสบการณ์ และความรับผิดชอบดีกว่า ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่บริษัทฯ สามารถเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดการเรื่องเงินให้สินเชื่อ
"นอกจากนี้ ยังมองว่าคนกลุ่มนี้มีความสามารถในการชำระหนี้ เนื่องจากมีระดับรายได้ที่อยู่ในระดับที่เหมาะสม วงเงินให้สินเชื่อตามที่ธนาคารแห่งประเทศไทยกำหนดคือไม่เกิน 5 เท่าของรายได้เฉลี่ยต่อเดือนดังนั้นระดับรายได้ 30,000 บาทสามารถได้วงเงินสินเชื่อสูงสุด 150,000 บาท" นายวิชิต กล่าวเพิ่มเติม
สินเชื่อบุคคลซัมมิท แคปปิตอล มาพร้อมสโลแกน "ชีวิตดี๊ดี...เพราะมีซัมมิทจัดให้" ภายใต้จุดแข็งเอกสารครบ อนุมัติไว ได้เงินเร็ว โดยอนุมัติสูงสุด 1 ล้านบาท ผ่อนนาน 12-60 เดือน ไม่ต้องมีหลักทรัพย์หรือผู้ค้ำประกัน
"จากข้อมูลสำนักงานสถิติแห่งชาติระบุว่าลูกค้าที่มีระดับรายได้เฉลี่ย 30,000 บาทขึ้นไปมีประมาณ 1.2 ล้านคนทั่วประเทศ ในจำนวนนี้อยู่ในกรุงเทพฯ และภาคกลางถึง 770,000 คน ดังนั้นจึงเป็นกลุ่มที่บริษัทฯ เข้าถึงได้ไม่ยากนักในการเริ่มธุรกิจสินเชื่อบุคคลซัมมิท แคปปิตอลซึ่งมีจุดแข็งอยู่ที่สถานะทางการเงินที่แข็งแกร่งเนื่องจากเป็นบริษัทในเครือซูมิโตโม คอร์ปอเรชั่น ประเทศญี่ปุ่น และมีระบบการอนุมัติสินเชื่อที่มีประสิทธิภาพและบุคลากรที่มีความเชี่ยวชาญและความชำนาญทำให้เชื่อมั่นได้ว่าเราจะสามารถอนุมัติสินเชื่อให้ลูกค้าได้รวดเร็วหรือภายใน 1 วันทำการ และตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อบุคคลให้ได้ 300 ล้านบาทภายในปีงบประมาณ 2559 อย่างแน่นอน" นายวิชิต กล่าวทิ้งท้าย