คนไทยได้ที่หนึ่งในเอเชีย-แปซิฟิก จากการสอบภาษาญี่ปุ่นธุรกิจของ เจโทร

กรุงเทพฯ--3 มี.ค.--เวเบอร์ แชนด์วิค (ประเทศไทย)
นายอะทสึโอะ คุโรดะ ประธานองค์การส่งเสริมการค้าต่างประเทศของญี่ปุ่น (เจโทร กรุงเทพ ฯ) กล่าวว่าในการสอบวัดระดับทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่นเชิงธุรกิจ หรือ เจโทร เทสต์ (JETRO TEST) ครั้งที่ 10 ที่จัดขึ้นเมื่อปีที่ผ่านมา คนไทยทำคะแนนได้เป็นที่หนึ่งในเอเชีย แปซิฟิก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น จากผู้เข้าสอบกว่า 3,000 คน ทั่วโลก โดย นางสาว วรลักษณ์ ธรรมาณิชานนท์ สามารถทำคะแนน ได้ถึง 738 คะแนน จาก 800 คะแนน ซึ่งจัดอยู่ในอันดับหนึ่งจากทั่วโลก ยกเว้นประเทศญี่ปุ่น และเป็น อันดับแปดหากนับรวมประเทศญี่ปุ่น
ปัจจุบัน น.ส. วรลักษณ์เป็นล่ามอิสระในคณะที่ปรึกษาของ Japan Management Association Consultants (JMAC) น.ส. วรลักษณ์เริ่มเรียนภาษาญี่ปุ่นเมื่อปี พ.ศ. 2525 ที่ Tokyo Foreign Language University โดยได้รับทุนการศึกษาจากรัฐบาลญี่ปุ่น
น.ส. วรลักษณ์ กล่าวว่า “การรู้ภาษาญี่ปุ่นนั้นมีข้อได้เปรียบอย่างมาก แม้หลายคนจะคิดว่าการรู้หลัก
ไวยากรณ์พื้นฐานหรือการสนทนาเบื้องต้นนั้นเพียงพอแล้ว แต่ดิฉันขอเสนอแนะให้ทุกท่านพัฒนาทักษะ การใช้ภาษาญี่ปุ่นธุรกิจให้เชี่ยวชาญ เพื่อเป็นการพัฒนาศักยภาพของตนให้เกิดประโยชน์สูงสุดอันก่อให้
เกิดการทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ”
“การสอบ เจโทร เทสต์ ยังมีข้อดีอีกหลายประการ” น.ส. วรลักษณ์กล่าว “ชาวไทยที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่นมักจะได้รับการพิจารณาเลื่อนตำแหน่งหน้าที่และปรับเงินเดือนขึ้นหากได้รับผลคะแนนที่ดี”
ทั้งนี้ นายคุโรดะ ประธาน เจโทร กรุงเทพ ฯ กล่าวว่า “เจโทรจะจัดพิธีมอบรางวัลเพื่อแสดงความยินดีกับความสำเร็จของคุณวรลักษณ์ พร้อมด้วยผู้สอบชาวไทยอีก 30 ท่านที่ได้คะแนนสูงสุดในประเทศไทย จากการสอบเมื่อปีที่แล้ว ณ โรงแรมเวสทิน แกรนด์ สุขุมวิท ในวันที่ 13 มีนาคมนี้”
นอกจากนี้ นายคุโรดะ ได้แสดงความคิดเห็นว่าผู้ประกอบการชาวไทยควรเร่งพัฒนาทรัพยากรบุคคลเพื่อเตรียมพร้อมสำหรับข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (Economic Partnership Agreement: EPA) ระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่น ที่กำลังจะมีขึ้นในอนาคต “ข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึง เขตการค้าเสรี (FTA) ระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นนั้น หมายถึงการค้าและการลงทุนในระดับที่สูงขึ้น รวมทั้งการแลกเปลี่ยนความรู้และทรัพยากรบุคคลในอนาคต ดังนั้นจึงเป็นการดีหากผู้ประกอบการเลือกลงทุนในการพัฒนาทรัพยากรบุคคล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการเพิ่มประสิทธิภาพในการติดต่อสื่อสาร เพื่อที่ ประเทศไทยและญี่ปุ่นจะได้รับผลประโยชน์ร่วมกันจากข้อตกลงทางธุรกิจ ขณะนี้ มีบริษัทญี่ปุ่นที่ดำเนิน กิจการในประเทศไทยราว 7,000 บริษัท และยังมีบริษัทไทยและต่างชาติที่มีความต้องการบุคลากรที่สามารถร่วมงานและติดต่อสื่อสารกับผู้เชี่ยวชาญหรือนักธุรกิจญี่ปุ่นในปัจจุบันและในอนาคตหากเมื่อข้อตกลงความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและญี่ปุ่นมีผลบังคับใช้” นายคุโรดะกล่าว
ทั้งนี้ ข้อมูลจากกระทรวงการต่างประเทศระบุว่า มูลค่าการค้าระหว่างประเทศไทยและญี่ปุ่นนั้นมีจำนวน ถึง 20% ของปริมาณการค้าต่างประเทศทั้งหมดของประเทศไทย นอกจากนี้ ปริมาณการลงทุนจาก
ประเทศญี่ปุ่นในประเทศไทย ก็มีปริมาณสูงสุดเมื่อเทียบกับการลงทุนจากประเทศอื่น โดยคิดเป็น 40% ของการลงทุนจากต่างชาติทั้งหมด
“ปัจจุบัน นักธุรกิจจำนวนมากให้ความสนใจเรียนภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาที่สองหรือสาม โดยเห็นได้จาก
จำนวนผู้เข้าสอบ เจโทร เทสต์ เพื่อวัดระดับทักษะการใช้ภาษาญี่ปุ่นธุรกิจที่เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ตลอดระยะเวลา 8 ปีที่ผ่านมา” นายคุโรดะกล่าว
เจโทร เทสต์ เป็นที่ยอมรับทั่วโลกว่าเป็นข้อสอบหนึ่งที่วัดทักษะความสามารถที่จำเป็นในวงการธุรกิจ
อย่างแท้จริงได้อย่างแม่นยำที่สุด เพราะสามารถทดสอบทักษะการสื่อสารและการเจรจาต่อรองในเชิงธุรกิจด้วยภาษาญี่ปุ่นอย่างเป็นทางการ ตลอดจนวัดระดับความเข้าใจวัฒนธรรมการดำเนินธุรกิจแบบญี่ปุ่นอีกด้วย ซึ่งต่างจากข้อสอบภาษาญี่ปุ่นทั่วไป ทำให้ เจโทร เทสต์ ไม่เป็นแต่เพียงข้อสอบที่ท้าทายความสามารถอย่างมากแต่ยังคุ้มค่าเนื่องจากได้รับการยอมรับในเวทีโลกเพิ่มขึ้นทุกปี
เจโทร จัดการสอบ เจโทร เทสต์ ปีละ 2 ครั้ง ในเดือนมิถุนายนและเดือนพฤศจิกายน ผู้ที่สนใจสมัครสอบ เจโทร เทสต์ ครั้งที่ 11 โปรดติดต่อ สมาคมส่งเสริมเทคโนโลยี (ไทย-ญี่ปุ่น) โทร 02-258-0320-5 ต่อ 41-42 วันนี้ จนถึง 27 เมษายน หากต้องการข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการทดสอบ โปรดติดต่อ คุณนฤภร เจโทร โทร 02-651-8680 ต่อ 303 หรือคลิกที่http://www.jetro.go.jp/thailand/e/data/jetrotest.htm
สื่อมวลชนต้องการข้อมูลเพิ่มเติม กรุณาติดต่อ
คุณชุติมา ดวงพาณิช เจโทร กรุงเทพ 02 253-6441 ต่อ 147--จบ--