ลุมพินี ทาวเวอร์ : นายโอภาส ศรีพยัคฆ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอล.พี.เอ็น.ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด(มหาชน)(LPN)เปิดเผยว่า "ผลจากบิ๊กแคมเปญส่งเสริมการขายแห่งปี "ช็อคเป็นคู่ ยูนิตที่ 2 ลด 50%" ที่ผ่านมา บริษัทได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้า แต่มีหลายท่านที่พลาดการจองเนื่องจากไม่มีคู่ซื้อพร้อมกัน โอกาสอันดีนี้ บริษัทจึงใช้ 2 กลยุทธ์ คือ (1) Social Network คือFACEBOOK : CONDO LUMPINI ที่ได้ก่อตั้งมากว่า 2 ปี มีแฟนเพจ 47,000 รายมาเพิ่มช่องทางการซื้ออีกครั้ง โดยจะช่วยลูกค้าจับคู่จองซื้อคอนโดลุมพินีผ่านสื่อออนไลน์เพื่อแชร์รับส่วนลดพิเศษยูนิตละ 25% วิธีรับสิทธิพิเศษง่ายๆเพียงลูกค้าเข้ามาในwww.facebook.com /Condo Lumpini และคอมเม้นท์ใต้โครงการที่สนใจ หลังจากนั้นบริษัทจะส่งลิงค์ให้ลูกค้าลงทะเบียน เมื่อบริษัทได้รับการลงทะเบียนจากลูกค้าทั้งสองท่านแล้ว จะทำการจับคู่ให้ทันทีและส่ง SMS ให้ลูกค้านำไปจองที่โครงการต่อไป
และอีกหนึ่งกลยุทธ์ที่บริษัทนำมาส่งเสริมการขาย คือ (2) Word of Mouth (การบอกต่อ) ที่บริษัทได้รับการเชื่อถือในแบรนด์ "ลุมพินี" มากว่า 27 ปี ซึ่งเป็นการรองรับกลุ่มเพื่อนชวนเพื่อนให้จูงมือมาซื้อและรับส่วนลดพิเศษพร้อมกัน ทั้งนี้สำหรับลูกค้าที่เคยซื้อคอนโดลุมพินีแล้วและสนใจกลับมาซื้อใหม่ภายในโครงการเดียวกันอีกครั้ง LPN ยินดีมอบส่วนลดพิเศษให้อีก 25% เช่นกันยกตัวอย่าง จากห้องชุดยูนิตละ 1 ล้านบาท LPN ลดให้ 25% คิดเป็นมูลค่าส่วนลด 250,000 บาท ซึ่งการจัดแคมเปญสุดเซอร์ไพรส์แห่งปีนี้มีเพียง 1 ครั้ง/ปีเท่านี้ โดยบริษัทตั้งใจคืนกำไรจากส่วนลดนี้แก่ลูกค้าก่อนปิดไตรมาส 3 ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ลูกค้ามีบ้านได้ง่ายๆ กับราคาที่จับต้องได้ (Affordable Price) ภายใต้สังคมคุณภาพ "ชุมชนน่าอยู่สำหรับคนทุกวัย" รวมถึงเป็นการกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคในภาวะตลาดซบเซาให้กลับมาคึกคักเร็วยิ่งขึ้น ทั้งนี้ แคมเปญจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 9 - 11 กันยายนนี้เท่านั้น"
กรรมการผู้จัดการ LPN กล่าวต่อว่า "สำหรับ 5 โครงการพร้อมอยู่นี้บริษัทคัดสรรมาเป็นอย่างดี ซึ่งเป็นตำแหน่งห้องสวย มุมดีจำนวนกว่า 900 ยูนิตมาให้ลูกค้าได้เลือกอย่างจุใจ คิดเป็นมูลค่ากว่า 1,300 ลบ. ด้วยราคาเริ่มต้นเพียง 975,000 บาท (ราคาหลังจากหักส่วนลด 25%เรียบร้อยแล้ว) ซึ่งหลังจากลูกค้าจองซื้อที่โครงการเรียบร้อยแล้วจะต้องโอนกรรมสิทธิ์ห้องชุดภายใน 15 วัน โดยบริษัทหวังเป็นอย่างยิ่งว่ากระแส Social Network , Word of Mouth และความตั้งใจส่งมอบคุณค่าผลิตภัณฑ์และบริการ (Product & Service Value) จากบริษัทไปยังลูกค้าจะส่งผลให้ยอดขายของแคมเปญนี้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้"