นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า รัฐบาลโดยกระทรวงการคลัง ได้มีนโยบายให้ธนาคารออมสิน ดำเนินโครงการบรรเทาความเดือดร้อนและมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ข้าราขการครู และบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งธนาคารออมสินได้ดำเนินการไปเมื่อปี 2558 แต่เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจที่ส่งผลกระทบต่อชีวิตครูและบุคลากรทางการศึกษา มาตรการที่กำหนดไว้อาจไม่เพียงพอต่อการให้ความช่วยเหลือ รัฐบาล โดย ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี จึงให้ธนาคารออมสินหาแนวทางแก้ไข ซึ่งธนาคารออมสินได้จัดทำ"โครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา" โดยไม่กระทบเงินงบประมาณแผ่นดิน
นายชาติชาย พยุหนาวีชัย ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน เปิดเผยว่า "โครงการลดภาระหนี้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา" เป็นโครงการที่ทำให้ลูกหนี้มีส่วนในการแก้ไขปัญหาของตนเองด้วยความสมัครใจ การกู้เงินตามโครงการนี้ จะช่วยลดภาระหนี้ที่มีอยู่ในปัจจุบัน โดยนำเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัว (เงิน ช.พ.ค.) ที่ทายาทมีสิทธิ์จะได้รับในอนาคต มาค้ำประกัน ซึ่งธนาคารออมสินคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 4.00% ต่อปี ต่ำกว่าเงินกู้เดิมที่คิดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ประมาณ 5.85-6.70% ต่อปี
ทั้งนี้ ผู้ที่จะเข้าร่วมโครงการนี้ได้ ต้องเป็นผู้ที่ยังมีภาระหนี้สินเชื่อโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค. กับธนาคาร มีอายุ 50 ปีขึ้นไป และคงมีสถานะเป็นสมาชิก ช.พ.ค. โดยกำหนดวงเงินสินเชื่อเท่ากับจำนวนเงินฌาปนกิจสงเคราะห์ครอบครัวที่ทายาทมีสิทธิ์จะได้รับหลังหักค่าจัดการศพแล้ว โดย เงินสินเชื่อจะถูกแบ่งเป็น 2 ส่วน ส่วนที่ 1 นำไปชำระหนี้เงินต้นบางส่วนหรือปิดบัญชีเงินกู้ ช.พ.ค.เดิม ส่วนที่ 2 กันไว้เพื่อชำระดอกเบี้ยเงินกู้ตามสัญญาใหม่ และชำระเงินสงเคราะห์รายศพรายเดือนตลอดระยะเวลากู้ โดยการดำเนินโครงการนี้ ธนาคารออมสินได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสำนักงานคณะกรรมการ สกสค. ในการตรวจสอบยืนยันความเป็นสมาชิก ช.พ.ค. ของผู้ที่จะขอสินเชื่อใหม่ตามโครงการนี้ โดยที่ธนาคารออมสินมีความยินดีที่ได้มีส่วนช่วยแก้ไขปัญหาหนี้สินให้แก่ครูและบุคลากรทางการศึกษาในครั้งนี้
"โครงการนี้ จะทำให้รัฐบาลสามารถแก้ไขบรรเทาปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษาได้ โดยข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาประมาณ 289,000 ราย จะสามารถลดภาระหนี้ลงได้ทันทีเฉลี่ย 250,000 บาทต่อราย เป็นเงิน 72,250 ล้านบาท ทำให้ลดภาระการผ่อนชำระหนี้เดิมลงได้ 1,200 – 2,400 บาท หรือบางรายสามารถปิดบัญชีได้โดยไม่ต้องผ่อนชำระหนี้อีกต่อไป ขณะเดียวกันธนาคารออมสินได้ลดอัตราดอกเบี้ยลงจากเดิม 5.85 – 6.70% ต่อปี เป็น 4.00% ต่อปี เป็นการแบ่งเบาภาระในระยะยาว และไม่ต้องผ่อนชำระหนี้วงเงินสินเชื่อใหม่ตลอดอายุสัญญา ซึ่งจะทำให้ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีขวัญและกำลังใจในการปฏิบัติงาน ทำให้เกิดการพัฒนาวิชาชีพครูในภาพรวม ที่สำคัญจะเป็นการยกระดับคุณภาพชีวิตของครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ดียิ่งขึ้นได้อย่างยั่งยืน" ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน กล่าวในที่สุด