คุณชนินทร์ เผยแนวคิดที่น่าสนใจและสะท้อนพฤติกรรมของนักลงทุนในตลาดปัจจุบันว่า "แม้ในปัจจุบัน ตลาดคอนโดฯจะมีคนมองว่าอิ่มตัว แต่บริษัทฯ คิดว่าอานิสงค์ของการขยายเมือง และเสน่ห์ในเมืองท่องเที่ยวของไทย ยังเป็นประโยชน์ดึงดูดเหล่านักลงทุนมองหาโปรดักส์ที่ดี ที่ตอบโจทย์ โดยผู้ที่ได้เปรียบคือผู้ที่มองและเข้าใจตลาดอย่างชัดเจนว่าต้องการผลิตสินค้าเพื่อขายใคร ในส่วนของ Best Western Premier BayPhere Pattaya ภายใต้การบริหารของ ฮาบิแทท กรุ๊ป นั้น เป็นโปรดักส์ที่ชัดเจนว่าเกิดขึ้นเพื่อนำเสนอแก่นักลงทุนที่ต้องการมีสินทรัพย์ที่ให้ผลตอบแทนชัดเจน และสามารถเพิ่มมูลค่าเป็นอย่างมากได้ในอนาคต บริษัทฯ จึงได้ศึกษาตั้งแต่การเลือกทำเล เป็นที่ดินแปลงเล็กติดหน้าหาดนาจอมเทียน ไปจนถึงระบบบริหารจัดการ ซึ่งใช้เชนโรงแรมต่างชาติที่มีกลุ่มลูกค้าและประสบการณ์ด้านการบริหารโรงแรมเข้ามามีส่วนร่วม ทำให้สามารถการันตีผลตอบแทนแน่นอนให้กับลูกค้าได้"
โครงการฯ เริ่มเปิดขายในเดือน ก.ค. ปัจจุบัน มียอดขาย 50 % จากทั้งหมด 174 ยูนิต ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นนักลงทุน เนื่องจากให้ผลตอบแทนที่ชัดเจนแน่นอนกว่าการลงทุนในประเภทอื่นๆ อาทิ หุ้น หุ้นกู้ ทองคำ กองทุนรวม นอกเหนือจากนั้นคือศักยภาพ แนวโน้มเมืองพัทยาที่มีอัตราการเติบโตเศรษฐกิจด้านการท่องเที่ยว ภายในระยะเวลา 5 ปี มีสนามบินอู่ตะเภา , เรือเฟอร์รี่ ท่องเที่ยวเชื่อมต่อ 3 จัดหวัด พัทยา กรุงเทพฯ หัวหิน , อนาคตมีแผนระยะยาว สร้างรถไฟฟ้าความเร็วสูง ทำให้คมนาคมสะดวก และเข้าถึงเมืองได้ง่ายขึ้น ข้อมูลจาก Best Western เผยว่า อัตราการเข้าพักเฉลี่ยทั้งปีของโรงแรมและรีสอร์ตริมหาดอยู่ที่ 78 % และอัตราค่าห้องพักมีการเติบโต ประมาณ 3 พัน ถึง 7 พันบาทต่อห้อง
สำหรับ Best Western Premier BayPhere Pattaya เป็นคอนโดสไตล์รีสอร์ท โลว์ไรซ์ 8 ชั้นติดทะเล ขนาดประมาณ 1 ไร่ ดึงแบรนด์ผู้ให้บริการโรงแรมชั้นนำจากอเมริกา เบสเวสเทิร์น มาบริหารจัดการ ดูแลการเช่าให้กับนักลงทุน มีเพียง 174 ยูนิต เริ่มต้น ที่ 3.2 ล้านบาท หรือ เริ่มต้นตรม.ละ 107,000 บาท