นายไมตรี เปิดเผยว่า จากการที่สหรัฐฯ ได้ยกระดับประเทศไทยดีขึ้น อยู่ในระดับ 2 ที่ต้องจับตามอง เนื่องจากเห็น ความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทย ในการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ โดยมีข้อเสนอแนะ 17 ข้อ สำหรับการดำเนินงานในปีต่อไป นอกจากนี้ ยังได้จัดการประชุม "เปิดใจ...ต่อต้านการค้ามนุษย์ของไทย" ในครั้งนี้ ซึ่งเป็นการประชุมครั้งที่ 4 เพื่อให้เป็นเวทีสำหรับภาคีเครือข่าย องค์การระหว่างประเทศ และภาคประชาสังคม ได้แลกเปลี่ยนประสบการณ์การทำงาน ร่วมกันแก้ไขปัญหาอุปสรรค และข้อท้าทายที่เกิดขึ้นระหว่างการคัดแยกผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์
นายไมตรี กล่าวต่อไปว่า สำหรับการประชุมในวันนี้ ได้นำข้อเสนอแนะของสหรัฐฯ เรื่องการคัดแยกผู้เสียหายและเรื่องสถานที่สำหรับช่วยเหลือผู้เสียหายและกลุ่มเป้าหมายด้านแรงงาน มาจัดทำเป็น "แนวทางปฏิบัติและแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดแยกผู้เสียหาย" เพื่อให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นคู่มือในการทำงาน และเข้าใจกระบวนการคัดแยก ซึ่งเป็นกระบวนการสำคัญในการบ่งชี้ว่าบุคคลใดเป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์หรือไม่ เพื่อประโยชน์ในการคุ้มครองช่วยเหลือผู้เสียหาย และสามารถนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษให้ได้
"กระทรวงการพัฒนาสังคมฯ จะสานพลังประชารัฐตามแนวนโยบายของรัฐบาล เพื่อขับเคลื่อนและบูรณาการ ความร่วมมือกับทุกภาคส่วน เพื่อขจัดปัญหาการค้ามนุษย์ให้หมดสิ้นไป และเพื่อรักษาไว้ซึ่งสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์" นายไมตรี กล่าวในตอนท้าย