กรรมการผู้จัดการ EXIM BANK เปิดเผยว่า จนถึงปัจจุบัน EXIM BANK สนับสนุนวงเงินสินเชื่อเพื่อใช้ในการขยายการลงทุนก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่มบริษัท เชาว์ สตีล รวมแล้วกว่า 47 MW ซึ่งเมื่อรวมกับกำลังการผลิตปัจจุบันที่ก่อสร้างเสร็จแล้ว จะทำให้กลุ่มบริษัท เชาว์ สตีล มีกำลังการผลิตในประเทศญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นเป็นกว่า 70 MW โดยสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลญี่ปุ่นปัจจุบันที่ส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าด้วยพลังงานหมุนเวียน เพื่อลดสัดส่วนการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ภายหลังจากโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ที่เมืองฟุกุชิมาได้รับความเสียหายจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว โดยมีเป้าหมายเพิ่มสัดส่วนการใช้พลังงานหมุนเวียนเป็น 24% ของกำลังการผลิตไฟฟ้าภายในปี 2573 ทั้งนี้ ปัจจุบันสัดส่วนของพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตจากพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ ชีวมวล และความร้อนใต้พิภพยังอยู่ในระดับต่ำเพียง 12% จึงเป็นโอกาสที่ดีของนักลงทุนไทยที่จะขยายการลงทุนด้านพลังงานในประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกลุ่มบริษัท เชาว์ สตีล ถือเป็นกลุ่มนักลงทุนไทยรายแรกๆ ที่เข้าไปลงทุนในธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในญี่ปุ่นมานานกว่า 2 ปี และมีเป้าหมายขายไฟฟ้าให้แก่การไฟฟ้าของประเทศญี่ปุ่นเป็นระยะเวลา 20 ปี ขณะที่ EXIM BANK มีนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนให้นักลงทุนไทยขยายฐานการลงทุนไปยังต่างประเทศ รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาพลังงานทดแทน เพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมโลกอย่างยั่งยืน
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มบริษัท เชาว์ สตีล ก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น
- ธ.ค. ๒๕๖๗ ภาพข่าว: EXIM BANK สนับสนุนทางการเงินแก่กลุ่มบริษัท เชาว์ สตีล
- ๒๓ ธ.ค. EXIM BANK ชี้แนวโน้มเศรษฐกิจและส่งออกไทยปี 68 แตะระดับ 3% เดินหน้าพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน ยกระดับธุรกิจไทยแข่งขันได้ในเวทีโลกอย่างยั่งยืน
- ๒๓ ธ.ค. EXIM BANK คว้ารางวัล Bank of The Year 2024 สุดยอดธนาคารแห่งปี 2567
- ๒๓ ธ.ค. EXIM BANK ออกมาตรการ "เพิ่มทุน-ลดภาระ-ขยายระยะเวลา" ช่วยเหลือลูกค้าที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยในภาคใต้