นอกจากนี้ กระทรวงเกษตรฯ โดยกรมประมง ยังได้มีการปรับโครงสร้างกรมประมง เพื่อรองรับภารกิจใหม่ โดยมีการนำนวัตกรรมและเทคโนโลยีมาปรับใช้ในการบริหารจัดการและจัดระเบียบการประมง เพื่อเพิ่มผลผลิตภาคการประมงโดยคำนึงถึงความยั่งยืนของทรัพยากรประมงควบคู่กันไป จึงได้กำหนดหัวข้อในการสัมมนา โดยเน้นย้ำให้เกิดการทำงานร่วมกันทั้งภาคราชการ ภาคเอกชน ชาวประมง รวมถึงผู้ประกอบการ โดยมีเป้าหมายสูงสุดเพื่อให้เกิดความยั่งยืนด้านประมง ทั้งในด้านอ่าวไทยและด้านอันดามัน ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของการทำงาน โดยจะนำข้อแนะนำที่ได้จากการสัมมนาในครั้งนี้ มาใช้ประกอบการพิจารณาจัดทำยุทธศาสตร์ กลยุทธ์ ในการบริหารจัดการ การพัฒนาส่งเสริมอาชีพประมงให้เกิดความยั่งยืน
"สำหรับการใช้พระราชกำหนดการประมง พ.ศ.2558 ได้ให้ความสำคัญในเรื่องการทำประมงให้เกิดความยั่งยืน ทั้งด้านประมงพาณิชย์และประมงพื้นบ้าน รวมถึงเครื่องมือทำการประมงที่ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมจนเกินไป ซึ่งพระราชกำหนดดังกล่าวคาดว่าจะแล้วเสร็จภายในสิ้นปีนี้ แต่อย่างไรก็ตาม ในส่วนที่มีข้อตกลงร่วมกันได้แล้วก็จะนำออกมาใช้ก่อน และได้สั่งการให้กรมประมงเร่งดำเนินการในการที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จต่อไป" พลเอก ฉัตรชัย กล่าว