นายชัยรัตน์ โกวิทจินดาชัย ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN) เปิดเผยว่า ระหว่างวันที่ 24-25 กันยายน 2559 นี้ บริษัทฯเตรียมจัดงาน "เปิดแบบบ้านใหม่ C-SHAPE" ที่โครงการปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์ บ้านเดี่ยวแนวคิดใหม่ บนทำเลศักยภาพ ใกล้รถไฟฟ้ามากที่สุดบนถนนราชพฤกษ์เพียง 1.2 กิโลเมตร จากสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส (BTS) สถานีบางหว้า หลังจากได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี จากบ้าน L-SHAPE ในเฟสแรก
"เฟสที่ 2 นี้ ทางปริญสิริได้พัฒนาฟังก์ชั่นบ้านใหม่ ให้ตอบโจทย์กลุ่มลูกค้าครอบครัวใหญ่ขึ้นเกิดเป็น แบบบ้าน C-SHAPE บ้านที่ตอบโจทย์ทุกการใช้ชีวิตของคนเมือง ภายใต้แนวคิด "Oxygen Community" โดยยังมาพร้อมฟังก์ชั่นพิเศษ "ห้องธรรมชาติ" ที่เป็นเอกลักษณ์ของโครงการปริญญ์ สาทร – ราชพฤกษ์"นายชัยรัตน์กล่าว
สำหรับโครงการปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์ เป็นโครงการบ้านเดี่ยวต้นแบบของปริญสิริ ในเฟสแรกมีแบบบ้าน L-SHAPE เป็นแบบบ้าน Hilight ของโครงการ ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากลูกค้า และถูกพัฒนาต่อเนื่องในเฟส 2 ที่จะเปิดขายระหว่างวันที่ 24-25 ก.ย. นี้ พร้อมกับเปิดตัวแบบบ้านใหม่ C-SHAPE ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น รองรับกลุ่มลูกค้าครอบครัวใหญ่ ย่านฝั่งธน
สำหรับราคาเริ่มต้นของโครงการ อยู่ที่ 12- 26 ล้าน สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร. 1753 หรือ Prinsiri.com
"ปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์ ออกแบบโครงการที่พักอาศัยภายใต้แนวคิดการอยู่อย่างยั่งยืน โดยมีธรรมชาติเป็นแรงบันดาลใจในการออกแบบ จากแนวคิดเพื่อการอยู่อย่างยั่งยืน เราสามารถพัฒนาวิถีชีวิตที่ดีขึ้น ด้วยการสร้างสรรค์พื้นที่เพื่อออกแบบสังคมใหม่ โดยใช้รูปแบบสถาปัตยกรรมที่เอื้อให้เราใกล้ชิดกลมกลืนกับธรรมชาติ ใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อสร้างความสะดวกสบาย โดยรบกวนสภาพแวดล้อมให้น้อยที่สุด ควบคู่ไปกับการประหยัดพลังงานและลดมลพิษ เกิดเป็นแนวทางในการออกแบบ โครงการปริญญ์ สาทร-ราชพฤกษ์ สร้างสมดุลแห่งการอยู่อาศัย เชื่อมต่อธรรมชาติสู่ใจกลางเมือง"นายชัยรัตน์กล่าว
ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักกรรมการผู้จัดการ บริษัท ปริญสิริ จำกัด (มหาชน) (PRIN) กล่าวถึงแนวโน้มผลประกอบการในช่วงครึ่งหลังของปี 2559 ว่า คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับอานิสงส์จากแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยที่ทรงตัวอยู่ในระดับต่ำ โดยในช่วงที่เหลือของปีนี้เตรียมเปิดใหม่ 4 โครงการ มูลค่ารวม 2,450 ล้านบาท ประกอบด้วย ทาวน์เฮาส์ 2 โครงการ คือ ซิตี้เซนส์ พระราม 2 (ท่าข้าม) มูลค่า 1,000 ล้านบาท ,ซิตี้เซนส์ รังสิต มูลค่า 260 ล้านบาท และคอนโดมิเนียม 2 โครงการ คือ โครงการตลาดพลู มูลค่า 190 ล้านบาท และรัตนาธิเบศร์ มูลค่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งมีกรรมสิทธิ์ที่ดินพร้อมหมดแล้ว สามารถพัฒนาโครงการได้ทันที และมีจุดขายตั้งอยู่บนทำเลที่มีศักยภาพ ทั้งนี้ มั่นใจว่ารายได้รวมในปีนี้จะอยู่ที่ 2,900 ล้านบาท ตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งคาดว่า 90% จะเป็นรายได้จากโครงการที่เปิดขายแล้วในปัจจุบัน