ทั้งนี้ข้อดีของการเข้าทำรายการ ขยายการลงทุนในธุรกิจที่มีการเติบโตอย่างมั่นคงและลดความเสี่ยงจากการพึ่งพารายได้จากการประกอบธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์เหล็ก โดยการได้มาซึ่งหุ้นบริษัท PPTC จะเป็นการลงทุนในกลุ่มธุรกิจพลังงานที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคง มีความผันผวนของธุรกิจต่ำ โดย MAX จะได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนแบบต่อเนื่องในรูปแบบเงินปันผล คาดว่าจะมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) ซึ่งอ้างอิงตามประมาณการทางการเงินอยู่ในช่วงร้อยละ 6 – 10 ต่อปี ส่งผลต่อการสร้างมูลค่าเพิ่มและผลตอบแทนให้แก่ MAX ในระยะยาว เป็นการลงทุนที่มีความเสี่ยงต่ำ เนื่องจาก PPTC ได้มีการทำสัญญาขายไฟฟ้ากับ กฟผ. และสัญญาขายไฟฟ้าและไอน้ำกับลูกค้าอุตสาหกรรมบางราย ที่มีโรงงานตั้งอยู่ใกล้โรงไฟฟ้า บริเวณนิคมอุตสาหกรรม เรียบร้อยแล้วและการลงทุนครั้งนี้จะทำให้บริษัทฯ ได้รับประสบการณ์ในการดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้ามากขึ้น ซึ่งจะช่วยสร้างโอกาสในขยายการลงทุนในกลุ่มธุรกิจนี้ต่อไปในอนาคต
นอกจากนี้ MAX ตกลงซื้อหุ้น PPTC จากผู้ขายในราคาหุ้นละ 142.333 บาท ในขณะที่ราคาประเมินของที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ในช่างราคาระหว่าง 186.81 – 209.25 บาทต่อหุ้น ซึ่งซื้อได้ต่ำกว่าราคาประเมินถึง 44.48 – 66.92 บาทต่อหุ้น คิดเป็น 31.979% ถือเป็นข้อดีอย่างยิ่งในการลงทุนใน PPTC ครั้งนี้โดย MAX จะซื้อหุ้นสามัญของ PPTC ภายหลังจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 2/2559 ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 6 ตุลาคม 2559 เพื่อมีมติขออนุมัติการเข้าทำรายการดังกล่าว