ข้อควรปฏิบัติยามเจ็บป่วยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

อังคาร ๒๗ กันยายน ๒๐๑๖ ๑๐:๐๖
บทความสาระการแพทย์ โรงพยาบาลพระรามเก้า

โดย พญ.ณัฐกานต์ มยุระสาครแพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสมโรงพยาบาลพระรามเก้า

ข้อควรปฏิบัติยามเจ็บป่วยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน

โรคเบาหวาน เป็นภาวะที่ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่าปกติจนทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อนต่อหลอดเลือดต่างๆทั่วร่างกาย เช่น "โรคหลอดเลือดหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง โรคไตวายเรื้อรัง ตาบอด ระบบประสาทส่วนปลายเสื่อมนำไปสู่การตัดเท้าหรือขา" เป็นต้น ปัจจัยเสี่ยงของโรคเบาหวาน นอกจากพันธุกรรมแล้ว ปัจจัยสิ่งแวดล้อมและวิธีการดำเนินชีวิต เช่น การเลือกรับประทานอาหาร น้ำหนักตัวเกิน ไม่ออกกำลังกาย หรือมีภาวะความดันโลหิตสูงและไขมันในเลือดสูง ก็สุ่มเสี่ยงในการเป็นโรคเบาหวานเช่นกัน สาเหตุของระดับน้ำตาลในเลือดสูงเกิดจากตับอ่อนหลั่งฮอร์โมนอินซูลิน (Insulin) ลดลง ร่วมกับการออกฤทธิ์ของฮอร์โมนอินซูลินที่เซลล์กล้ามเนื้อ ตับ และเซลล์ไขมันลดลง ซึ่งฮอร์โมนอินซูลินมีหน้าที่ควบคุมการใช้พลังงานของร่างกายให้ใช้น้ำตาลเป็นพลังงานหลัก เมื่อร่างกายขาดพลังงานจึงรู้สึกเพลีย อยากกินอาหารหวาน และน้ำตาลสูงในเลือดที่สูงเกินจะถูกขับออกทางปัสสาวะ จึงมีอาการปัสสาวะบ่อย คอแห้ง หิวน้ำ และน้ำหนักลด

แพทย์หญิงพญ.ณัฐกานต์ มยุระสาคร แพทย์ด้านต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิสม โรงพยาบาลพระรามเก้า กล่าวว่า ผู้ป่วยเบาหวานควรมีความรู้ในการดูแลตัวเอง ได้แก่ การเลือกรับประทานอาหารให้เหมาะสม หมั่นออกกำลังกายตามความแข็งแรง ควบคุมน้ำหนักตัว รับประทานยาหรือฉีดยาตามคำแนะนำแพทย์และมาพบแพทย์ตามนัดอย่างสม่ำเสมอ หนึ่งในการดูแลตนเองที่ผู้ป่วยเบาหวานควรรู้ คือ การดูแลตนเองเมื่อมีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน เช่น การติดเชื้อ การผ่าตัด อุบัติเหตุ หรือได้รับยาบางชนิดที่มีผลต่อน้ำตาลในเลือด ร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมนต่างๆ เพื่อต่อสู้กับเชื้อโรคกับอาการเจ็บป่วยนั้นๆมีผลทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูงขึ้นหรือลดลงผิดปกติ รวมทั้งอาการเจ็บป่วยมีผลต่อปริมาณอาหารที่รับประทานทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแกว่ง นอกจากคนไข้จะเจ็บป่วยจากโรคนั้นๆแล้ว อาจมีภาวะแทรกซ้อนเฉียบพลันจากระดับน้ำตาลในเลือด ได้แก่

1. Diabetic ketoacidosis คือ ภาวะระดับน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับเลือดเป็นกรด มักตรวจพบระดับน้ำตาลในเลือดมากกว่า 250 มก./ดล. อาการ ได้แก่ กระหายน้ำ คอแห้ง อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน หอบเหนื่อย ลมหายใจมีกลิ่นผลไม้ จนถึงซึม หมดสติได้

2. Hyperglycemia hyperosmolar nonketotic syndrome (HHNS) ภาวะน้ำตาลในเลือดสูงร่วมกับภาวะ osmolarity (ความเข้มข้นเลือด) สูง มักพบในผู้สูงอายุที่คุมเบาหวานได้ไม่ดี มีภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน ร่วมกับภาวะขาดน้ำรุนแรง ระดับน้ำตาลในเลือดสูงกว่า 600 มก./ดล. บางรายที่เป็นมาก อาจมีความดันโลหิตต่ำ ความรู้สึกตัวจะค่อยๆลดลง จนโคม่าได้

3.Severe hypoglycemia ภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำรุนแรง จนผู้ป่วยไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ เช่น มีอาการสับสน เป็นลม หมดสติ ชักเกร็ง กระตุก จำเป็นต้องได้รับการช่วยเหลือจากผู้อื่น และอาการดีขึ้นเมื่อระดับน้ำตาลปกติ มักพบเมื่อระดับน้ำตาลในเลือด 50 มก./ดล. หรือต่ำกว่า ข้อควรปฏิบัติยามเจ็บป่วยสำหรับผู้ป่วยเบาหวาน(Sick- day rules) สำหรับผู้ป่วยเบาหวานเมื่อเกิดภาวะเจ็บป่วยเฉียบพลัน สิ่งที่ต้องหมั่นทำ คือ ดื่มน้ำเปล่าให้มากขึ้น ชั่วโมงละครึ่งถึงหนึ่งแก้ว (ถ้าไม่มีข้อห้าม เช่น โรคหัวใจ โรคไต) เพื่อป้องกันภาวะขาดน้ำ และช่วยขับน้ำตาลส่วนเกินและคีโตนไปทางปัสสาวะ ควรตรวจระดับน้ำตาลในเลือดที่ปลายนิ้วบ่อยขึ้น (ผู้ป่วยโรคเบาหวานชนิดที่หนึ่งควรจะตรวจทุกๆ

4 ชั่วโมงและตรวจคีโตนในปัสสาวะ สำหรับผู้ป่วยเบาหวานชนิดที่สอง ควรตรวจอย่างน้อย 3 เวลาก่อนอาหารและก่อนนอน) กินอาหารคาร์โบไฮเดรตให้เพียงพอ หากไม่สามารถรักบประทานอาหารปกติได้ แนะนำให้รับประทานอาหารอ่อนย่อยง่าย เช่น ข้าวต้ม โจ๊ก น้ำข้าวผสมเกลือเล็กน้อย แครกเกอร์ ขนมปัง โยเกริต นมหรือน้ำเต้าหู้ อย่าหยุดยาด้วยตนเอง

ในกรณีที่ผู้ป่วยมีความต้องการซื้อยาจากภายนอกโรงพยาบาล ควรแจ้งประวัติโรคประจำตัวและรายชื่อยาที่ใช้อยู่แก่เภสัชกรหรือแพทย์ทุกครั้ง เนื่องจากยาปฏิชีวนะบางชนิดทำให้เกิดภาวะน้ำตาลในเลือดต่ำได้ ควรงดออกกำลังกายพักผ่อนให้เพียงพอ อาการที่ควรมาโรงพยาบาล ได้แก่ มีไข้ 2 วันแล้วยังไม่ทุเลา หรือมีอาการคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง รับประทานอาหารไม่ได้เลยนานกว่า 6 ชั่วโมง ตรวจพบคีโตนในปัสสาวะ (ระดับปานกลางหรือตั้งแต่ 2+ ขึ้นไป) ระดับน้ำตาลจากเลือดปลายนิ้วก่อนอาหารมากกว่า 240 มก./ดล. แม้ปรับยากินหรือยาฉีดอินซูลินแล้ว มีอาการของภาวะขาดน้ำ เช่น ริมฝีปากแห้งแตก หรืออาการรุนแรง เช่น หอบเหนื่อย แน่นหน้าอก หายใจมีกลิ่นผลไม้ และสิ่งที่ผู้ป่วยต้องเตรียมข้อมูลเมื่อมาพบแพทย์ คือ รายชื่อยา อาการเจ็บป่วย ปริมาณอาหารที่กินได้ น้ำหนักตัวปกติ และระดับน้ำตาลในเลือดช่วงเจ็บป่วยมาด้วยเพื่อให้แพทย์วินิจฉัย

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๘ เม.ย. ARDA จับมือ ฟาร์ม เอ็กซ์โป และพันธมิตร เปิดศึก AGRITHON by ARDA Season 2 เฟ้นหาสุดยอดไอเดียปลุกพลังนวัตกรรมเกษตรไทย ชิงทุนวิจัยรวมกว่า 100
๑๘ เม.ย. กรุงศรี ฉลอง 80 ปี ดูหนัง 80 บาท ที่ Major Cineplex เมื่อชำระด้วยบัตรกรุงศรี เดบิตและบัตร Krungsri Boarding
๑๘ เม.ย. แบรนด์ซุปไก่สกัด รณรงค์ขับขี่ปลอดภัยในโครงการ สมองล้าอย่าขับ พักดื่มแบรนด์ จับมือ ตำรวจทางหลวง และ ตำรวจจราจร
๑๘ เม.ย. ซัมซุงจัดใหญ่! เป็นเจ้าของ ตู้เย็น Side by Side รุ่นใหม่ล่าสุด พร้อมรับสิทธิพิเศษแบบจุใจ ได้แล้ววันนี้
๑๘ เม.ย. ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 คาดกนง.มีมติลดดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมเดือนเมษายนนี้
๑๘ เม.ย. EXIM BANK ร่วมกับกระทรวงการคลังและกระทรวงพาณิชย์ ออกมาตรการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทย โดยเฉพาะ SMEs รับมือนโยบายภาษีแบบตอบโต้ของสหรัฐฯ
๑๘ เม.ย. ปักหมุด! เตรียมจัดงาน PET Expo Thailand 2025 จัดยิ่งใหญ่ครบรอบ 25 ปี
๑๘ เม.ย. ลดคลายร้อน ช้อปแลคตาซอย 1,000 ลด 100 พร้อมชวนร่วมสนุกถ่ายภาพคู่แลคตาซอย ลุ้น 10 รางวัล
๑๘ เม.ย. DITP ประชุมผู้จัดแสดงสินค้า เตรียมความพร้อมสู่เวที THAIFEX - ANUGA ASIA 2025
๑๘ เม.ย. โรงแรมเครือดุสิตธานี เปิดตัวโปรพิเศษต้อนรับซัมเมอร์ 'A Night on Us' เติมเต็มวันพักผ่อนอย่างมีความสุขกับโรงแรมและรีสอร์ทในเครือดุสิตธานีทั่วโลก