เกริ่นมาขนาดนี้ ต้องเรียกเจ้าตัวมาพูดคุยถึงการทำงานในเรื่องนี้ซะหน่อย โดยหนุ่มปรัชญ์เผยถึงความรู้สึกในการทำงานละครเรื่องนี้ว่า
@บทบาท ชลธี ในเรื่องนี้เป็นอย่างไร
ชลธี เป็นลูกชายคนเล็กของคุณพ่อดอกคูน ที่ถูกส่งไปเรียนเมืองนอกมา หลังจากกลับมาด้วยความหวังของพี่ชายก็อยากให้น้องเอาความรู้ที่เรียนมาๆพัฒนาวงต่อ แต่พอเราเห็นสภาพวงว่าไม่น่าจะไปไหวก็เลยคิดจะขายวงซึ่งเป็นความคิดที่ต่างจากพี่ชาย คาแรคเตอร์เป็นนักเรียนนอกที่มีความคิดของตัวเอง เป็นคนซีเรียสและจริงจังกับสิ่งที่ตัวเองทำครับ
@ความรู้สึกกับการรับบทพระเอกเต็มตัวเรื่องที่สอง (เรื่องแรก วัยมันส์พันธุ์อสูร)
ทุกครั้งที่ได้รับบทพระเอกของเรื่อง ยอมรับว่าผมรู้สึกกดดันมาก...มาก...มาก...มาก เพราะเหมือนเราต้องแบกละครเอาไว้จนจบ ทำยังไงให้มันสนุก ต้องมีความรับผิดชอบมากขึ้น การบ้านเยอะขึ้น ให้ความรู้สึกยากมันเลยกดดันสุดๆครับ แล้วเวลาผมกดดันมันก็จะเล่นไม่ได้เลย คือผมชอบคิดไปต่างๆ นานากดดันตัวเอง คราวนี้ก็จะรนรัวไปหมดใจเต้นตึกๆ เลย บอกตรงๆ ผมยังไม่รู้สึกชินกับการแสดงเลย ถ้านับที่เคยแสดงบทหลักๆ ก็เกือบสิบเรื่องได้แต่ก็ยังไม่ชิน อาจเป็นเพราะแต่ละเรื่องก็บทไม่เหมือนกัน บล็อกกิ้งไม่เหมือนกัน ทีมงานไม่เหมือนกัน แต่ละอย่างไม่เหมือนกันเลยทำให้ผมรู้สึกได้เจอสิ่งใหม่ๆตลอดเวลาทำให้ไม่ชินสักที ผมก็เคยคุยกับเพื่อน ๆนักแสดงกับผู้กำกับฯ บางท่าน ก็ได้คำแนะนำว่าให้ใจเย็นๆ ปล่อยให้มันเป็นไปสบายๆ พอถึงเวลาก็ได้บ้างไม่ได้บ้าง แล้วบางครั้งก็เป็นสิงห์สนามซ้อม คือเวลาซ้อมทำได้แต่พอเอาจริง กลับทำไม่ได้ เข้าโหมดเดิม...ที่เป็นแบบนี้ผมว่าคงมาจากการควบคุมสติ ควบคุมลมหายใจของตัวเองไม่ค่อยได้นะ
@แสดงว่าเรื่องนี้ค่อนข้างยากกว่าเรื่องแรก
มันยากทุกเรื่องเลย แต่มันจะเป็นความยากที่มันไม่เหมือนกันของแต่ละเรื่อง สำหรับเรื่องนี้ นางฟ้าเปื้อนฝุ่น ด้วยความที่ในบทต้องเป็นนักเรียนนอก ผมก็ไม่ชินกับการเป็นนักเรียนนอก แล้วก็ต้องดูแลวงก็ไม่รู้สึกว่าตัวเองไม่เป็นหัวหน้าวง เวลาแสดงก็มีความรู้สึกกลัวว่าคนจะไม่เชื่อว่าเราเป็นนักเรียนนอก หรือเป็นหัวหน้าวง นอกจากนี้ก็พวกเล็กๆ น้อยๆ เรื่องร้องเพลง พวกเต้นผมก็ไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ ตอนถ่ายเอ็มวีเพลง สามช่าอินเตอร์ ที่ร้องกับโซฟี่ ผมต้องเต้นฮิปฮอป ซึ่งก็เต้นไม่ค่อยได้ เพราะไม่เคยเต้น ที่เคยเต้นก็เป็นงานเล็กๆ ที่ฝึกเต้นเป็นอาทิตย์ แต่อันนี้ฝึกแค่ชั่วโมงเดียวกับคนที่เต้นไม่เป็นเลย เป็นอะไรที่ยากมากใช้เวลาถ่ายนานมาก บอกตรงๆ ผมไม่กล้าดูมอนิเตอร์รู้สึกอาย... แล้วผมเป็นประเภทถ้าไม่มั่นใจผมจะไม่กล้าดู
@แล้วเรื่องการร้องเพลงเป็นอย่างไร
ส่วนเรื่องการร้องเพลงๆ สามช่าอินเตอร์ ไม่ค่อยเท่าไหร่ แต่ตอนร้องเพลง เธอคือดวงใจ เพลงนี้เสียงสูงมาก เวลาร้องเสียงสูงมากๆ เสียงผมจะสั่น เพราะเสียงผมปกติไม่สูง เนื้อเสียงไม่แข็งแรง แต่คีย์เพลงนี้ที่แรกสูงมากสุดท้ายต้องลดคีย์ลงมาหน่อย แต่มันก็เกือบร้องไม่ถึงเพราะวันนั้นที่อัดเสียงผมไม่ค่อยสบายทั้งไอทั้งเจ็บคอด้วยก็พยายามทำเต็มที่นะ ถ้าพูดถึงเรื่องร้องเพลงผมก็ทำได้นะเวลาไปโชว์ตัวก็ร้องบ่อยๆ แต่อยู่ที่ว่าจะร้องเพราะหรือเปล่าครับ
@แล้วซีนร้องไห้ในเรื่องนี้ก็มีเหมือนกัน
นอกจากที่บอกมาซีนที่ต้องเล่นดราม่า ให้ร้องไห้มันก็ยากอ่ะ ทั้งๆ ที่จริงๆ ผมเป็นคนเซ็นต์ซิทีฟพอสมควร แต่พอต้องแสดงมันกลับร้องไม่ออก ซึ่งที่ผ่านมาบางครั้งก็ร้องออกบางครั้งก็ร้องไม่ออก เวลาอ่านบทเจอต้องดราม่ามันจะหนักใจมากเครียดไปทั้งวันจริงๆ แต่พอถ่ายฉากนั้นผ่านไปได้มันถึงกับโล่งอกเลยครับ อย่างในเรื่องฉากที่ถ่ายบอกเลิกกับนางเอกก่อนถ่ายเครียดมากแต่พอตอนถ่ายเราก็ใช้วิธีเข้าไปจับมือนางเอกแล้วพูดปรากฏว่าน้ำตามาเลย ก็รู้สึกดีที่เราทำได้นะ
คำแนะนำการแสดงจากพี่วุธ ผู้กำกับ ก็มีหลายอย่างเลยครับ มีทั้งพูดให้เราคิดเอง แต่ถ้าเราไม่เข้าใจจริงๆ พี่เขาก็จะบอกว่าตรงนี้มันมาจากจุดนี้ ความรู้สึกมันต้องเป็นแบบนี้นะ แล้วก็มีบอกว่าบางครั้งไม่ต้องดีไซน์แต่ให้มันออกมาจากข้างใน แต่บางครั้งเราจะใช้แอ็คติ้งช่วยด้วยก็ได้เพื่อให้มันชัดขึ้น คืออยากให้เราหยิบใช้ให้มันถูกครับ แล้ววันนี้ก็เพิ่งได้รับคำแนะนำในเรื่องการวางเท้าชี้ไปที่กล้อง ไม่ควรยอมรับว่าเป็นผู้กำกับที่ค่อนข้างละเอียดครับ
@ร่วมงานกับ โซฟี่ เป็นเรื่องที่สามแล้ว
ก็โอเคนะ น้องเขาเป็นคนน่ารัก มีความตั้งใจในการทำงานดีมาก แล้วความที่เราสนิทกันเวลาเข้าฉากก็เลยไม่รู้สึกเกร็ง ไม่มีปัญหา แม้ในบางฉากจะมีเลิฟซีนเล็กๆ เราก็ไม่เขิน เพราะรู้สึกชินเคยผ่านจากเรื่องอื่นมาแล้ว
@รู้สึกชอบการแสดงหรือยัง
ก็ชอบนะ แต่รู้สึกว่าตัวเองยังใหม่กับการแสดง ยังเป็นอะไรที่ยาก เป็นคนที่ไม่ค่อยมีพรสวรรค์แต่โชคดีที่มีโอกาส สำหรับนักแสดงที่เป็นไอดอลของผม เท่าที่นึกออกตอนนี้ก็น่าจะเป็น ทอม แฮงค์ส ผมดูการแสดงแล้วรู้สึกเชื่อ เขาเอาอยู่ซึ่งจำได้ว่าตอนนั้นดูเรื่อง Cast Away เป็นเรื่องที่เขาติดเกาะอยู่คนเดียว แต่เขาสามารถเล่นเดินเรื่องคนเดียวได้ทั้งเรื่อง มันเจ๋งมาก ในส่วนของนักแสดงไทยผมชอบพี่ปู มัณฑนา คือผมเป็นคนที่ร้องไห้ยาก แต่พี่ปูร้องไห้เหมือนสั่งได้ จะให้น้ำตาออกซ้ายก็ได้ออกขวาก็ได้ แม้แต่จะให้ออกตอนพูดประโยคนี้ก็ได้ ดูแล้วเก่งมาก นอกจากนี้น้ำเสียงที่ออกมาก็จะเปลี่ยนไปตามคาแรคเตอร์เวลาร้ายก็จะเป็นแบบนึง เวลาดีก็จะออกมาอีกแบบนึง ดูแล้วครบจริงๆ ซึ่งผมคงต้องฝึกอีกเยอะ
@ฝากทิ้งท้ายโปรโมทละครกันหน่อย
ถามว่าทำไมจะต้องดูละครเรื่อง นางฟ้าเปื้อนฝุ่น ผมอยากบอกว่าเป็นละครที่มีหลากหลายอารมณ์ มีทั้งสนุกสนานเฮฮา ดราม่าก็มี เส้นเรื่องเยอะมาก นอกจากนี้ก็ยังมีมิวสิควีดีโอสวยๆ เพลงเพราะๆ เป็น 10 เพลงจากพวกเรานักแสดงทุกคน มาให้ฟังกัน เป็นละครเย็นที่ทั้งเด็กและผู้ใหญ่ที่เครียดจากการทำงานหรือจากการเรียน มานั่งดูกันได้ ผมรับรองสนุกแน่นอนอยากให้มาดูกันเยอะๆ ครับ
ไปตามให้กำลังใจหนุ่มปรัชญ์ได้ในละคร "นางฟ้าเปื้อนฝุ่น" ทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 18.35 น. และเสาร์-อาทิตย์ เวลา 18.20 น. ทางช่อง 7 สี ดูมันดี รับประกันความสนุกจ้า